เมื่อเช้าวันที่ 18 มิถุนายน 2566 ณ รัฐสภา นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ได้ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ได้เข้าพบอัยการสูงสุดเพื่อรับทราบข้อกล่าวหาตามมาตรา 112
โดยนายภูมิธรรมยืนยันว่ากระบวนการทางกฎหมายต่อนายทักษิณจะดำเนินไปอย่างยุติธรรมตามหลักนิติรัฐ พร้อมทั้งฝากถึงสังคมว่าไม่ควรหลงเชื่อข่าวลือที่ปราศจากมูลความจริงเกี่ยวกับตัวนายทักษิณ อาทิ ข่าวที่ว่าเจ้าตัวได้หลบหนีออกนอกประเทศแล้ว หรือกำลังซ่อนตัวอยู่ชั้น 14 ของอาคารที่พักอาศัยแห่งหนึ่ง
เนื่องจากล่าสุดยังมีภาพนายทักษิณออกไปทานอาหารปรากฏให้เห็นอยู่ นายภูมิธรรมชี้ว่าข่าวลือในลักษณะดังกล่าวนั้นมีเนื้อหาเป็นเชิงลบ และขาดความน่าเชื่อถือเป็นอย่างมาก โดยมีเป้าประสงค์เพื่อทำลายความน่าเชื่อถือของรัฐบาลชุดปัจจุบัน อันเป็นเรื่องที่ไม่ถูกต้องและสมควรได้รับการแก้ไข
นอกจากนี้ นายภูมิธรรมยังได้กล่าวเพิ่มเติมอีกว่า ตนไม่ทราบถึงเจตนาที่แท้จริงของกลุ่มคนที่ปล่อยข่าวลือเหล่านี้ แต่การกระทำดังกล่าวกำลังสร้างความเสียหายอย่างใหญ่หลวงให้กับประเทศชาติ ดังนั้นจึงอยากวิงวอนให้ผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องได้ยับยั้งการกระทำนี้โดยทันที
“อย่าทำเลย ประเทศกำลังหนักแล้ว ประเทศยังต้องการความร่วมมือในการแก้ไขปัญหา เพียงแค่คนไม่กี่คนที่อยากมีอำนาจ ก็ควรจะใช้วิธีอื่น อย่าใช้วิธีที่ทำให้ประเทศพังทลายไปมากกว่านี้ สงสารประเทศ สงสารประชาชน” นายภูมิธรรมกล่าวทิ้งท้าย
ปฏิกิริยาจากฝ่ายรัฐบาล
นายภูมิธรรมในฐานะรองนายกรัฐมนตรีได้ออกมาตอบโต้กระแสข่าวลือต่างๆ ที่เกิดขึ้น โดยชี้ชัดว่าการกระทำดังกล่าวไร้ซึ่งความรับผิดชอบ และอาจนำไปสู่ความวุ่นวายในบ้านเมือง ในขณะที่ประเทศชาติกำลังประสบปัญหามากมายที่รอการแก้ไข
การปล่อยข่าวลวงเพื่อทำลายความน่าเชื่อถือของรัฐบาลจึงเป็นเรื่องที่ไม่ควรกระทำอย่างยิ่ง นายภูมิธรรมระบุว่าตนและคณะรัฐมนตรีพร้อมอุทิศตนเพื่อพัฒนาประเทศชาติให้เจริญก้าวหน้า และขอความร่วมมือจากทุกภาคส่วนให้หยุดการบิดเบือนข้อเท็จจริงซึ่งจะส่งผลเสียต่อสังคมในวงกว้างต่อไป
หากพิจารณาจากบริบทโดยรวม การให้สัมภาษณ์ของนายภูมิธรรมในครั้งนี้ต้องการสื่อสารกับประชาชนในหลายประเด็น โดยเฉพาะอย่างยิ่งเรื่องความน่าเชื่อถือของกระบวนการยุติธรรม ซึ่งจะต้องปราศจากการแทรกแซงทางการเมือง และดำเนินไปบนพื้นฐานของหลักนิติธรรม
นอกจากนั้นยังต้องการเรียกร้องให้ทุกฝ่ายระงับการเผยแพร่ข่าวเท็จ และหันมาร่วมมือกันเพื่อพัฒนาประเทศ แทนที่จะใช้วิธีการสกปรกในการทำลายคู่แข่งทางการเมือง เพราะสุดท้ายแล้วประชาชนและประเทศชาติจะต้องได้รับผลกระทบมากที่สุด ซึ่งไม่มีบุคคลใดปรารถนาให้เกิดเหตุการณ์เช่นนั้นขึ้นอย่างแน่นอน
เรียบเรียงโดย Baannews.com