แนวโน้มราคาทองวันที่ 18 มิถุนายน 2567: ราคาปรับตัวลงในกรอบจำกัด
ราคาทองคำวานนี้ปรับตัวลงเล็กน้อยจากแรงกดดันจากการปรับตัวเพิ่มขึ้นของผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ หลังจากผู้ว่าการธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) สองท่านสนับสนุนการปรับขึ้นดอกเบี้ยเพียงครั้งเดียวในปีนี้
โดยสรุปการซื้อขายในตลาดโลก
ราคาทองคำปรับตัวลง 16.52 ดอลลาร์ หรือลดลง 0.70% ปิดตลาดที่ระดับ 2,316 ดอลลาร์ต่อออนซ์ โดยทองเคลื่อนไหวในกรอบ 2,310-2,332 ดอลลาร์ ขณะที่ราคาทองคำแท่งในประเทศปรับตัวในกรอบ 40,400-40,450 บาท
ปัจจัยที่กดดันราคาทอง
ความเคลื่อนไหวของราคาทองในวันนี้มีสาเหตุหลักมาจากปัจจัยดังนี้:
- ผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 10 ปี ปรับตัวเพิ่มขึ้นหลังรัฐมนตรีคลังสหรัฐและประธานเฟดสาขามินนีแอโพลิสและฟิลาเดลเฟียสนับสนุนการขึ้นดอกเบี้ยอีกครั้งเดียวในปีนี้ ซึ่งทำให้เกิดแรงกดดันต่อราคาทองที่ให้ผลตอบแทนติดลบ
- ความคลายกังวลเกี่ยวกับปัญหาการเมืองในฝรั่งเศสหลังพรรคของประธานาธิบดีมาครงได้เสียงข้างมากในการเลือกตั้งสภาผู้แทนราษฎร
อย่างไรก็ตาม กองทุนทองคำ SPDR Gold Trust ซึ่งเป็นกองทุนรวมทองคำที่ใหญ่ที่สุดในโลก รายงานว่ายังคงถือครองปริมาณทองคำเท่าเดิม ซึ่งเป็นสัญญาณว่ายังมีความต้องการในการถือครองทองคำในระดับปัจจุบัน
ตัวเลขเศรษฐกิจสำคัญที่จะมีการประกาศในวันนี้
นักลงทุนจับตาตัวเลขเศรษฐกิจสำคัญของสหรัฐฯ 2 รายการในคืนนี้ ได้แก่
- ยอดค้าปลีกเดือนพฤษภาคม ซึ่งนักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าจะเพิ่มขึ้น 0.3% จากเดือนเมษายนที่ไม่เปลี่ยนแปลง
- การผลิตภาคอุตสาหกรรมเดือนพฤษภาคม ซึ่งคาดว่าจะขยายตัว 0.3% หลังจากเดือนเมษายนที่ไม่มีการเปลี่ยนแปลง
แนวโน้มราคาทองคำ
เจ้าหน้าที่วิเคราะห์จากบริษัทหลักทรัพย์ ฮั่วเซ่งเฮง คาดการณ์ว่าราคาทองคำจะเคลื่อนไหวในกรอบ Sideways โดยประเมินกรอบการเคลื่อนไหวของราคาทองคำในตลาดโลกไว้ที่ 2,310-2,335 ดอลลาร์
โดยระบุถึงแนวรับและแนวต้านของทองคำคือ:
สำหรับราคาทองคำในตลาดโลก
– แนวรับที่ 2,310 และ 2,300 ดอลลาร์
– แนวต้านที่ 2,335 และ 2,340 ดอลลาร์
สำหรับราคาทองคำแท่งในประเทศ
– แนวรับที่ 40,350 และ 40,250 บาท
– แนวต้านที่ 40,550 และ 40,650 บาท
ทางฝ่ายวิเคราะห์ของฮั่วเซ่งเฮงแนะนำว่า สำหรับการลงทุนในทองคำ ให้เข้าซื้อที่ 2,310 ดอลลาร์ โดยตั้งจุดตัดขาดทุนที่ 2,300 ดอลลาร์ และขายทำกำไรในบริเวณแนวต้านที่ 2,335-2,340 ดอลลาร์
ส่วนในตลาดทองคำแท่งภายในประเทศนั้น วิเคราะห์ว่าระยะสั้นราคาอาจเคลื่อนไหวในกรอบ 40,350-40,650 บาท โดยยังคงมี Upside จำกัด แต่แนวโน้มลงก็ไม่มากนัก จึงแนะนำให้รอดูสถานการณ์ก่อน
โดยสรุปวันนี้นักลงทุนจับตาตัวเลขเศรษฐกิจสำคัญของสหรัฐซึ่งอาจเป็นปัจจัยสำคัญที่จะกำหนดทิศทางของราคาทอง ขณะเดียวกันก็ติดตามสถานการณ์อื่นๆ ทั้งทางการเมืองและเศรษฐกิจที่อาจมีผลกระทบด้วย