“แพทย์มนูญ” เผยไวรัสโควิด KP.2 สายพันธุ์ใหม่ ติดง่ายแต่อาการไม่รุนแรง

นพ.มนูญ ลีเชวงวงศ์ แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านโรคระบบทางเดินหายใจ จากโรงพยาบาลวิชัยยุทธ ได้แชร์ข้อมูลล่าสุดเกี่ยวกับเชื้อไวรัสโควิด-19 สายพันธุ์ย่อย KP.2 ซึ่งกำลังแพร่ระบาดในหลายประเทศ โดยคาดการณ์ว่าอีกไม่นานก็จะกลายเป็นสายพันธุ์หลักทดแทนสายพันธุ์ JN.1 ที่ระบาดในปัจจุบัน

สถานการณ์การระบาดของไวรัสสายพันธุ์ใหม่ KP.2

ข้อมูลจากการติดตามสถานการณ์ระบุว่า เชื้อไวรัสโควิด-19 สายพันธุ์ย่อย KP.2 กำลังแพร่ระบาดในหลายประเทศ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในสหรัฐอเมริกาและสิงคโปร์ ซึ่งมีอัตราการติดเชื้อแซงหน้าสายพันธุ์ JN.1 ที่ระบาดในปัจจุบัน

คุณสมบัติของไวรัสสายพันธุ์ใหม่ KP.2

  1. ติดต่อง่าย แต่อาการไม่รุนแรง

แม้ว่าไวรัสสายพันธุ์ KP.2 จะมีความสามารถในการติดต่อสูงกว่าสายพันธุ์เดิม แต่อาการของโรคกลับไม่รุนแรงเท่ากับสายพันธุ์ก่อนหน้า โดยคนที่ติดเชื้อแม้จะเคยติดเชื้อหรือฉีดวัคซีนมาก่อนก็สามารถติดเชื้อสายพันธุ์นี้ได้

ชื่อเล่น “FLiRT” และที่มา

นักวิทยาศาสตร์ชาวแคนาดา ศาสตราจารย์ T.Ryan Gregory เป็นผู้ตั้งชื่อเล่นให้กับไวรัสสายพันธุ์ใหม่นี้ว่า “FLiRT” ซึ่งเป็นคำย่อมาจากการกลายพันธุ์ของกรดอะมิโนบนโปรตีนหนาม ณ ตำแหน่งที่ 456 จาก F เป็น L และตำแหน่ง 346 จาก R เป็น T เมื่อนำอักษรย่อมารวมกันและใส่ i ตรงกลางก็ได้ชื่อว่า “FLiRT” ซึ่งมีความหมายว่า “เจ้าชู้” หรือ “จีบทุกคนไปทั่ว”

การจัดการเมื่อติดเชื้อสายพันธุ์ใหม่

หากติดเชื้อสายพันธุ์ KP.2 คนทั่วไปที่มีสุขภาพแข็งแรงสามารถรักษาตัวเองได้ด้วยการกินยาตามอาการ เนื่องจากอาการไม่รุนแรงมากนัก สำหรับผู้สูงอายุและผู้ที่มีภูมิคุ้มกันบกพร่อง แนะนำให้รีบพบแพทย์เพื่อรับยาต้านไวรัสโดยเร็ว เพื่อลดความรุนแรงของอาการ

การติดเชื้อสายพันธุ์ใหม่ถือเป็นการกระตุ้นภูมิคุ้มกัน

สิ่งที่น่าสนใจคือ การติดเชื้อสายพันธุ์ KP.2 จะช่วยกระตุ้นร่างกายให้สร้างภูมิคุ้มกันต่อไวรัสโควิดได้ดียิ่งขึ้น ดังนั้นจึงสามารถถือได้ว่าเป็นการ “ฉีดวัคซีนโควิดรุ่นใหม่” ให้กับร่างกายอีกครั้ง ช่วยเสริมสร้างภูมิคุ้มกันระยะยาว

ผลกระทบต่อการระบาดของเชื้อโรคอื่นๆ เช่น ไข้หวัดใหญ่และโรคฝีดาษลิง

นอกจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 สายพันธุ์ใหม่แล้ว ยังจำเป็นต้องติดตามสถานการณ์การระบาดของโรคติดเชื้ออื่นๆ เช่น ไข้หวัดใหญ่ซึ่งอาจมีการกลายพันธุ์ใหม่ๆ เช่นกัน รวมถึงโรคฝีดาษลิงที่ยังคงระบาดอยู่ในบางพื้นที่ ทั้งนี้ประชาชนควรหมั่นปฏิบัติตามมาตรการป้องกันโรคอย่างสม่ำเสมอและเฝ้าระวังอาการของโรคต่างๆ

สรุป

เชื้อไวรัสโควิด-19 สายพันธุ์ใหม่ KP.2 หรือที่มีชื่อเล่นว่า “FLiRT” เริ่มแพร่ระบาดและมีแนวโน้มที่จะกลายเป็นสายพันธุ์หลักในอนาคต โดยมีความสามารถในการติดต่อสูง แต่อาการของโรคกลับไม่รุนแรงมากนัก การติดเชื้อสายพันธุ์นี้ถือเป็นการกระตุ้นภูมิคุ้มกันต่อโควิดได้ดียิ่งขึ้น คนทั่วไปสามารถรักษาตัวเองได้ ขณะที่ผู้สูงอายุและผู้มีปัญหาภูมิคุ้มกัน ควรรีบพบแพทย์เพื่อรับการรักษาที่เหมาะสม