เหตุการณ์สะเทือนขวัญเกิดขึ้นบนสะพานมหาเจษฎาบดินทรานุสรณ์ จังหวัดนนทบุรี เมื่อหนุ่มนักวิ่งพบโทรศัพท์มือถือวางทิ้งไว้พร้อมกับคลิปวิดีโอที่บันทึกนาทีวิกฤตของเจ้าของเครื่อง นำไปสู่การค้นหาความจริงและความพยายามช่วยเหลือที่น่าติดตาม
เมื่อเวลา 23.30 น. วันที่ 12 มิถุนายน 2567 นายธนพล อายุ 24 ปี พนักงานราชการจากกรมสรรพาวุธทหารบก ได้พบเห็นเหตุการณ์ผิดปกติขณะวิ่งออกกำลังกายบนสะพานมหาเจษฎาบดินทรานุสรณ์ อำเภอเมืองนนทบุรี จังหวัดนนทบุรี เขาสังเกตเห็นรถจักรยานยนต์จอดอยู่พร้อมกับข้าวของส่วนตัวที่วางทิ้งไว้ รวมถึงโทรศัพท์มือถือที่กำลังบันทึกวิดีโอ
นาทีชีวิตที่ถูกบันทึกไว้
เมื่อนายธนพลเข้าไปตรวจสอบใกล้ๆ เขาพบว่าโทรศัพท์มือถือนั้นกำลังบันทึกคลิปสตอรี่ที่ยังไม่ได้โพสต์ ภาพที่ปรากฏในคลิปทำให้เขาตกใจและรู้สึกหวั่นวิตก เขาเล่าว่า “ผมวิ่งมาก็เหนื่อยอยู่แล้ว พอมาเจอเหตุการณ์แบบนี้ยิ่งตกใจ ใจสั่น ทำอะไรไม่ถูก ไม่เคยเจอแบบนี้มาก่อน เห็นแต่ในข่าว”
ด้วยความตกใจ นายธนพลได้โทรศัพท์ปรึกษารุ่นพี่และแจ้งเหตุไปยังสายด่วน 191 ในระหว่างนั้น มีชายคนหนึ่งวิ่งขึ้นมาบนสะพานและแจ้งว่ามีคนกระโดดลงไปแล้ว แต่โชคดีที่มีผู้ช่วยเหลือทันเวลา ชายคนดังกล่าวได้รวบรวมทรัพย์สินของผู้ก่อเหตุ ทั้งโทรศัพท์มือถือ รองเท้า แว่นตา และกระเป๋า รวมถึงนำรถจักรยานยนต์ลงจากสะพานไปด้วย
ความหวังและกำลังใจ
นายธนพลกล่าวด้วยความรู้สึกโล่งอกว่า “ดีใจที่เขาปลอดภัย ไม่งั้นคงกลายเป็นภาพติดตา” เขายังฝากข้อความถึงผู้ที่กำลังท้อแท้ว่า “อยากให้สู้ต่อ ชีวิตคนเราล้มได้ก็ลุกได้ ทำแบบนี้มันจบง่ายเกินไป คิดถึงพ่อแม่และลูกหลาน ไม่มีใครอยากให้เรากระโดดสะพาน”
จากการสอบสวนเบื้องต้น ทราบว่าชาวบ้านในบริเวณใกล้เคียงได้นำเรือออกไปช่วยเหลือผู้ก่อเหตุไว้ได้ทันเวลา ผู้ก่อเหตุถูกระบุชื่อในภายหลังว่าคือ นายนฤพนธ์ (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 29 ปี อาชีพไรเดอร์ ซึ่งได้รับการนำส่งโรงพยาบาลพระนั่งเกล้าโดยเจ้าหน้าที่กู้ภัย
เหตุการณ์นี้สะท้อนให้เห็นถึงความสำคัญของการมีสติและการช่วยเหลือกันในสังคม รวมถึงเป็นเครื่องเตือนใจให้เราใส่ใจดูแลคนรอบข้างมากขึ้น เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดเหตุการณ์น่าเศร้าเช่นนี้อีกในอนาคต