ฮัจย์ พิธีศักดิ์สิทธิ์แห่งการแสวงบุญที่ชาวมุสลิมทุกคนใฝ่ฝัน

การประกอบพิธีฮัจย์เป็นหนึ่งในหลักปฏิบัติสำคัญของศาสนาอิสลามที่มุสลิมทุกคนปรารถนาจะได้กระทำสักครั้งในชีวิต เพื่อให้การปฏิบัติศาสนกิจของตนสมบูรณ์ครบถ้วน ก่อนการเดินทางไปประกอบพิธีฮัจย์ ผู้แสวงบุญจะต้องเตาบัตหรือขอลุแก่โทษต่ออัลเลาะห์สำหรับความผิดทั้งปวงที่ได้กระทำมา พร้อมทั้งจัดเตรียมค่าใช้จ่ายสำหรับครอบครัวให้เพียงพอตลอดระยะเวลาที่ตนเองเดินทางไปประกอบพิธี 

การประกอบพิธีฮัจย์ หมายถึง การเดินทางไปปฏิบัติศาสนกิจที่นครมักกะฮ์ ในเดือนซุลฮิจญะฮ์ ตามวัน เวลา และสถานที่ต่าง ๆ ที่ศาสนาอิสลามได้กำหนดไว้ ศาสนกิจนี้ถือเป็นหน้าที่สำคัญสำหรับมุสลิมทั้งชายและหญิงทุกคนที่มีความพร้อมทั้งด้านร่างกาย ทรัพย์สิน และการเดินทาง สำหรับปี พ.ศ. 2567 (ฮิจเราะห์ศักราช 1445) วันที่ 7 ซุลฮิจญะฮ์ ซึ่งเป็นวันเริ่มต้นของพิธีฮัจย์ จะตรงกับวันที่ 13 มิถุนายน 2567

กะอ์บะฮ์: สถานที่ศักดิ์สิทธิ์แห่งศรัทธา

กะอ์บะฮ์ หรือที่เรียกอย่างเป็นทางการว่า อัลกะอ์บะตุลมุชัรเราะฟะฮ์ แปลตรงตัวว่า “กะอ์บะฮ์อันทรงเกียรติ” เป็นอาคารรูปทรงลูกบาศก์ที่ตั้งอยู่ ณ ใจกลางมัสยิดอัลฮะรอม ซึ่งเป็นมัสยิดที่สำคัญที่สุดและเป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ในศาสนาอิสลาม ตั้งอยู่ในนครมักกะฮ์ ประเทศซาอุดีอาระเบีย ชาวมุสลิมทั่วโลกถือว่ากะอ์บะฮ์เป็น บัยตุลลอฮ์ หรือ “บ้านของอัลลอฮ์” และใช้เป็นกิบลัตหรือทิศทางในการละหมาด โครงสร้างปัจจุบันของกะอ์บะฮ์ได้รับการสร้างขึ้นใหม่หลังจากที่อาคารเดิมถูกไฟไหม้เสียหายในช่วงการล้อมนครมักกะฮ์โดยฝ่ายอุมัยยะฮ์ในปี ค.ศ. 683

การเตรียมตัวสู่การเดินทางแห่งศรัทธา

การประกอบพิธีฮัจย์เป็นหลักปฏิบัติข้อที่ 5 ของศาสนาอิสลาม ซึ่งบังคับสำหรับมุสลิมทุกคนที่บรรลุศาสนภาวะและมีคุณสมบัติครบตามเกณฑ์ที่กำหนด โดยอยู่บนพื้นฐานและเงื่อนไขหลัก 3 ประการ ได้แก่

  1. มีทรัพย์สินเพียงพอสำหรับค่าใช้จ่ายในการเดินทางไปประกอบพิธีฮัจย์และกลับภูมิลำเนา โดยไม่ก่อให้เกิดความเดือดร้อนหรือเป็นภาระแก่ครอบครัวหรือผู้ที่อยู่เบื้องหลัง
  2. มีสุขภาพร่างกายที่แข็งแรงสมบูรณ์ พอที่จะทนต่อความยากลำบากในการเดินทางและการประกอบพิธีฮัจย์ได้
  3. มีความปลอดภัยตลอดเส้นทางการเดินทาง

 

**การเตรียมสัมภาระสำคัญสำหรับการเดินทาง**

 

  1. ค่าใช้จ่ายส่วนตัว: ควรเตรียมเงินติดตัวไปไม่ต่ำกว่า 10,000 บาท สำหรับใช้จ่ายระหว่างอยู่ในประเทศซาอุดีอาระเบีย โดยอาจแลกเป็นเงินสกุลดอลลาร์สหรัฐ หรือนำบัตรเครดิตที่ใช้ได้ทั่วโลกติดตัวไปด้วย
  2. อาหาร: ควรนำเฉพาะอาหารที่จำเป็น โดยเน้นอาหารแห้งและบรรจุในภาชนะที่ตรวจสอบได้ง่าย
  3. ยารักษาโรค: ผู้ที่มีโรคประจำตัวควรนำยาพร้อมใบรับรองแพทย์ติดตัวไปด้วย
  4. เครื่องแต่งกาย: ผู้หญิงควรเตรียมชุดมุสลิมะห์ที่ปกปิดร่างกายตามหลักศาสนา ส่วนผู้ชายต้องมีชุดเอียะห์รอมซึ่งประกอบด้วยผ้าขาวสำหรับนุ่งและห่ม รองเท้าแตะ ย่าม และเข็มขัด
  5. หนังสือคู่มือการประกอบพิธีฮัจย์: เพื่อใช้ทบทวนขั้นตอนและรายละเอียดต่าง ๆ ระหว่างการประกอบศาสนกิจ

การเตรียมความพร้อมด้านสุขภาพก่อนการเดินทาง

การดูแลสุขภาพก่อนเดินทางเป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่ง เนื่องจากการประกอบพิธีฮัจย์เป็นกิจกรรมที่ต้องใช้ความอดทนและแข็งแรงของร่างกายเป็นอย่างมาก ผู้ที่มีโรคประจำตัว เช่น โรคความดันโลหิตสูง โรคหัวใจ โรคหอบหืด โรคเบาหวาน ควรปฏิบัติดังนี้

  1. พบแพทย์ประจำตัวเพื่อตรวจสุขภาพและแจ้งเรื่องการเดินทาง
  2. เตรียมยาที่ใช้ประจำให้เพียงพอตลอดการเดินทาง
  3. ขอใบรับรองแพทย์ระบุโรคและยาที่ใช้เป็นภาษาอังกฤษ
  4. ปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์อย่างเคร่งครัด

นอกจากนี้ ควรเตรียมยาสามัญประจำบ้านติดตัวไปด้วย เช่น ยาลดไข้ ยาแก้ท้องเสีย ยาแก้แพ้ และควรฉีดวัคซีนป้องกันโรคไข้กาฬหลังแอ่นตามที่ประเทศซาอุดีอาระเบียกำหนด

การปฏิบัติตนระหว่างประกอบพิธีฮัจย์

เมื่อเดินทางถึงประเทศซาอุดีอาระเบีย ผู้แสวงบุญควรปฏิบัติตนด้วยความระมัดระวัง โดย:

  1. ติดบัตรประจำตัวและสวมเลสข้อมือตลอดเวลา
  2. ไม่ออกจากที่พักตามลำพังหรือไปกับคนแปลกหน้า
  3. หลีกเลี่ยงการเข้าไปในที่ที่มีผู้คนแออัด
  4. ดูแลสุขภาพด้วยการดื่มน้ำมาก ๆ ใช้ร่มกันแดด และพักผ่อนให้เพียงพอ
  5. หากมีอาการเจ็บป่วย ให้แจ้งผู้นำกลุ่มหรือเจ้าหน้าที่หน่วยพยาบาลทันที

การปฏิบัติตามคำแนะนำเหล่านี้จะช่วยให้ผู้แสวงบุญสามารถประกอบพิธีฮัจย์ได้อย่างสมบูรณ์และปลอดภัย อันเป็นการเติมเต็มศรัทธาและความปรารถนาอันสูงสุดในชีวิตของชาวมุสลิมทุกคน

 การเอียะห์รอม – จุดเริ่มต้นแห่งพิธีกรรมศักดิ์สิทธิ์

การเอียะห์รอมเป็นขั้นตอนแรกและสำคัญของการประกอบพิธีฮัจย์ ซึ่งหมายถึงการเข้าสู่สภาวะของความบริสุทธิ์และการอุทิศตนเพื่อการประกอบศาสนกิจ ในขั้นตอนนี้ ผู้แสวงบุญชายจะต้องสวมชุดเอียะห์รอมซึ่งประกอบด้วยผ้าขาวไม่มีตะเข็บสองผืน ผืนหนึ่งใช้นุ่งและอีกผืนใช้คลุมไหล่ ส่วนผู้หญิงสามารถสวมชุดปกติที่ปกปิดร่างกายยกเว้นใบหน้าและมือ 

ในระหว่างอยู่ในสภาวะเอียะห์รอม ผู้แสวงบุญจะต้องละเว้นจากการกระทำบางอย่าง เช่น การตัดผมหรือเล็บ การใช้น้ำหอม การทะเลาะวิวาท และการมีเพศสัมพันธ์ การเอียะห์รอมนี้เป็นสัญลักษณ์แห่งความเท่าเทียมกันของมนุษย์ต่อหน้าพระเจ้า ไม่ว่าจะมีฐานะหรือตำแหน่งทางสังคมใดก็ตาม

การเข้าใจและปฏิบัติตามขั้นตอนการเอียะห์รอมอย่างถูกต้องจะช่วยให้ผู้แสวงบุญเริ่มต้นการประกอบพิธีฮัจย์ด้วยจิตใจที่บริสุทธิ์และพร้อมสำหรับการแสวงบุญอันศักดิ์สิทธิ์ที่กำลังจะเกิดขึ้น