สิงคโปร์กลายเป็นจุดหมายปลายทางเดียวในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ที่ได้ต้อนรับศิลปินระดับโลกอย่าง เทย์เลอร์ สวิฟต์ ในทัวร์คอนเสิร์ตครั้งล่าสุด เหตุการณ์นี้สร้างความตื่นเต้นให้กับแฟนเพลงทั่วภูมิภาค จนเกิดปรากฏการณ์แย่งชิงบัตรเข้าชมการแสดงอย่างดุเดือด โดยบัตรทั้งหมดถูกจำหน่ายหมดเกลี้ยงภายในเวลาเพียงไม่ถึง 3 ชั่วโมง ส่งผลให้ทางผู้จัดต้องประกาศเพิ่มรอบการแสดงเป็นทั้งหมด 6 รอบ เพื่อตอบสนองความต้องการอันล้นหลามของแฟนเพลง
การเปิดฉากทัวร์คอนเสิร์ตครั้งนี้เริ่มขึ้นในคืนวันที่ 2 มีนาคม 2567 ท่ามกลางความคาดหวังอันสูงของเหล่าสวิฟตี้จากทั่วภูมิภาคอาเซียนที่หลั่งไหลมายังสิงคโปร์ อย่างไรก็ตาม การที่ เทย์เลอร์ สวิฟต์ เลือกจัดแสดงคอนเสิร์ตเฉพาะที่สิงคโปร์เพียงแห่งเดียว โดยไม่มีกำหนดการแสดงในประเทศอื่นๆ ในอาเซียน ได้ก่อให้เกิดข้อถกเถียงอย่างกว้างขวาง
กลยุทธ์การตลาดระดับชาติ: สิงคโปร์ทุ่มงบเพื่อดึงดูดนักท่องเที่ยว
เบื้องหลังความสำเร็จครั้งนี้ มีรายงานว่ารัฐบาลสิงคโปร์ได้ทุ่มเงินมหาศาลกว่าร้อยล้านบาทเพื่อปิดดีลยักษ์กับทีมงานของ เทย์เลอร์ สวิฟต์ การตัดสินใจครั้งนี้นำมาซึ่งการถกเถียงระหว่างประเทศสมาชิกอาเซียน จนถึงขั้นที่ตัวแทนจากกระทรวงการต่างประเทศของหลายประเทศต้องออกมาแสดงความคิดเห็น
ทางด้านรัฐบาลสิงคโปร์ไม่รีรอที่จะประกาศชัยชนะในฐานะประเทศเดียวในภูมิภาคที่สามารถคว้าตัว เทย์เลอร์ สวิฟต์ มาได้ พวกเขาได้แปลงโฉม Marina Bay Sands สถานที่อันเป็นสัญลักษณ์ของประเทศ ให้กลายเป็นสวรรค์ของแฟนคลับ ด้วยการจัดแสดงระบำน้ำพุอันตระการตายาว 14 นาที ประกอบเพลงฮิตของนักร้องสาวชื่อดัง
นอกจากนี้ ยังมีการจัดโซนนิทรรศการพิเศษที่จำลองฉากประทับใจจากมิวสิกวิดีโอของ เทย์เลอร์ สวิฟต์ มาไว้ในโลกแห่งความเป็นจริง เพื่อให้แฟนๆ ได้สัมผัสประสบการณ์อย่างใกล้ชิด อาทิ เปียโนที่ประดับด้วยต้นมอสสีเขียวสดใสราวกับหลุดออกมาจาก MV เพลง Cardigan บัลลังก์ทองอันโอ่อ่าเช่นเดียวกับที่ปรากฏในเพลง Look What You Make Me Do และชุดโทรทัศน์วินเทจที่จัดวางเป็นรูปพีระมิดอันเป็นสัญลักษณ์ของอัลบั้ม 1989
คาดการณ์กันว่าการจัดคอนเสิร์ตของ เทย์เลอร์ สวิฟต์ ในช่วงวันที่ 2-4 มีนาคม และ 7-9 มีนาคม จะสร้างรายได้ให้กับประเทศสิงคโปร์มากกว่า 500 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือเทียบเท่ากับเกือบ 18,000 ล้านบาท โดยสังเกตได้จากราคาห้องพักโรงแรมและตั๋วเครื่องบินที่พุ่งสูงขึ้นถึงร้อยละ 30 ในช่วงเวลาดังกล่าว
ทั้งนี้ ความสำเร็จดังกล่าวเป็นผลมาจากการที่รัฐบาลสิงคโปร์ตัดสินใจลงทุนเป็นเงินถึง 18 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณ 640 ล้านบาท เพื่อให้ได้สิทธิ์ในการจัดแสดงคอนเสิร์ตของ เทย์เลอร์ สวิฟต์ แต่เพียงผู้เดียวในภูมิภาค
การตัดสินใจครั้งนี้ได้สร้างความไม่พอใจให้กับประเทศเพื่อนบ้าน โดยเฉพาะอย่างยิ่งฟิลิปปินส์ ซึ่งตัวแทนจากกระทรวงการต่างประเทศได้แสดงความไม่พอใจอย่างรุนแรง โดยกล่าวว่าการกระทำเช่นนี้ไม่เหมาะสมสำหรับประเทศเพื่อนบ้านที่ดี
อย่างไรก็ตาม กลยุทธ์การซื้อตัวซูเปอร์สตาร์ระดับโลกเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจของสิงคโปร์ กลับสร้างแรงบันดาลใจให้กับประเทศอื่นๆ ในภูมิภาค โดยเฉพาะอินโดนีเซีย ซึ่งกระทรวงการต่างประเทศของประเทศนี้กำลังวางแผนที่จะนำแนวคิดดังกล่าวมาปรับใช้ โดยเตรียมงบประมาณราว 127 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณ 4,500 ล้านบาท เพื่อดึงดูดเม็ดเงินเข้าประเทศผ่านการจัดกิจกรรมด้านดนตรี กีฬา และวัฒนธรรม
ต้องการให้ผมอธิบายหรือขยายความในส่วนใดเพิ่มเติมหรือไม่ครับ?