ในวันที่ 25 พฤษภาคม 2566 สนามเวมบลีย์ได้ต้อนรับการปะทะกันของสองทีมยักษ์ใหญ่แห่งเมืองแมนเชสเตอร์ ในศึกฟุตบอลเอฟเอ คัพ รอบชิงชนะเลิศ ระหว่างแมนเชสเตอร์ ซิตี้ แชมป์พรีเมียร์ลีก และแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ทีมอันดับ 8 ของตาราง โดยทั้งสองทีมต่างเข้าสู่สนามด้วยความมุ่งมั่นที่จะคว้าถ้วยรางวัลอันทรงเกียรตินี้
แม้ว่าแมนซิตี้จะขาดเอแดร์ซอน ผู้รักษาประตูมือหนึ่ง แต่พวกเขายังคงมีขุมกำลังที่แข็งแกร่ง นำโดย เควิน เดอ บรอยน์, ฟิล โฟเด้น และดาวยิงตัวเก่ง เออร์ลิ่ง ฮาแลนด์ ในขณะที่ฝั่งปีศาจแดงได้รับข่าวดีเมื่อ ราฟาแอล วาราน และ ลิซานโดร มาร์ติเนซ กลับมาลงสนามในแนวรับ พร้อมด้วยแนวรุกอย่าง อเลฮานโดร การ์นาโช่, บรูโน่ แฟร์นานเดส และ มาร์คัส แรชฟอร์ด
เกมเริ่มต้นด้วยการครองบอลเหนือกว่าของแมนซิตี้ แต่เหตุการณ์ไม่คาดฝันก็เกิดขึ้นในนาทีที่ 31 เมื่อ ยอสโก้ กวาร์ดิโอล โหม่งบอลพลาดเข้าประตูตัวเอง ทำให้ อเลฮานโดร การ์นาโช่ ฉวยโอกาสยิงประตูนำให้แมนยูฯ 1-0 และเพียงแค่ 8 นาทีต่อมา ค็อบบี้ ไมนู ก็ซัดประตูที่สองเพิ่มให้ทีมปีศาจแดง จบครึ่งแรกด้วยสกอร์ 2-0
ไฮไลท์การทำประตู: จังหวะสุดระทึก
ประตูแรกของแมนยูฯ เกิดจากความผิดพลาดของแนวรับแมนซิตี้ เมื่อ ยอสโก้ กวาร์ดิโอล พยายามโหม่งบอลออก แต่กลับเป็นการเปิดโอกาสให้ การ์นาโช่ ได้ยิงเข้าประตูอย่างง่ายดาย ส่วนประตูที่สองเกิดจากการสร้างสรรค์เกมรุกที่ยอดเยี่ยม โดย บรูโน่ แฟร์นานเดส จ่ายบอลให้ ค็อบบี้ มนู ได้ซัดเข้าไปอย่างเด็ดขาด
ครึ่งหลัง แมนซิตี้พยายามเร่งเครื่องบุกอย่างหนัก แต่แนวรับของแมนยูฯ ก็ยืนหยัดได้อย่างแข็งแกร่ง จนกระทั่งนาทีที่ 87 เฌเรมี โดกู ทำประตูตีไข่แตกให้แมนซิตี้ แต่ก็สายเกินไป จบเกมด้วยชัยชนะของแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด 2-1
ชัยชนะครั้งนี้ทำให้แมนยูฯ คว้าแชมป์เอฟเอคัพเป็นสมัยที่ 13 เพิ่มความสำเร็จให้กับสโมสรอันยิ่งใหญ่แห่งนี้ และเป็นการปิดฤดูกาลอย่างสวยงามสำหรับทีมปีศาจแดง ในขณะที่แมนซิตี้ต้องพลาดโอกาสคว้าแชมป์ 3 รายการในฤดูกาลนี้ไป