ในการแข่งขันมวยสากลคัดเลือกโอลิมปิก 2024 รอบที่ 2 ณ อินดอร์สเตเดี้ยม หัวหมาก กรุงเทพมหานคร เมื่อวันอังคารที่ 28 พฤษภาคม 2567 นักชกไทยหนุ่มไฟแรง พีรภัทร์ เยียะสูงเนิน ได้สร้างความประทับใจให้แก่แฟนมวยชาวไทยด้วยชัยชนะอันงดงามในรุ่น 71 กิโลกรัมชาย
การแข่งขันครั้งนี้ ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของโครงการ “โร้ด ทู ปารีส” ได้จัดขึ้นเป็นวันที่ห้า โดยไฮไลท์สำคัญอยู่ที่การปะทะกันระหว่างพีรภัทร์ และนูราดิน รุสทัมเบค อูลู นักชกวัย 22 ปีจากคีร์กิซสถาน ผู้ครองตำแหน่งแชมป์เยาวชนเอเชียปี 2019
บทวิเคราะห์การชก: กลยุทธ์สู่ชัยชนะ
พีรภัทร์แสดงให้เห็นถึงความเฉียบคมและทักษะอันยอดเยี่ยมตลอดการแข่งขันทั้งสามยก เขาเริ่มต้นด้วยการรุกอย่างหนักในยกแรก เน้นการใช้หมัดเข้าสู่ลำตัวคู่ต่อสู้ ตามด้วยชุดหมัดที่แม่นยำ แม้ว่านูราดินจะพยายามตอบโต้ แต่ก็ไม่สามารถต้านทานความแข็งแกร่งของนักชกไทยได้ จบยกแรกด้วยคะแนนนำ 5-0
ในยกที่สอง พีรภัทร์ยังคงรักษาแรงบุกไว้ได้อย่างดี ในขณะที่นูราดินพยายามปรับกลยุทธ์ แต่กลับทำผิดกติกาหลายครั้งจนโดนกรรมการเตือน พีรภัทร์แสดงให้เห็นถึงทักษะการป้องกันตัวที่ยอดเยี่ยม พร้อมกับการโต้กลับอย่างฉับไว จบยกสองด้วยคะแนนนำ 5-0 อีกครั้ง
ยกสุดท้าย นูราดินพยายามเร่งเครื่องเพื่อพลิกสถานการณ์ แต่พีรภัทร์ยังคงควบคุมจังหวะการชกได้อย่างยอดเยี่ยม เขาใช้การป้องกันตัวที่แข็งแกร่ง พร้อมกับการโต้กลับด้วยหมัดขวาที่ทรงพลัง จบการแข่งขันด้วยชัยชนะอย่างเด็ดขาด 5-0 คะแนน
ความรู้สึกหลังชัยชนะ
หลังจบการแข่งขัน พีรภัทร์ได้แสดงความพอใจกับผลงานของตนเอง เขากล่าวว่า “ผมรู้สึกดีกับการชกในครั้งนี้ สามารถควบคุมจังหวะการชกได้ดี แม้ว่าจะเคยเจอกับคู่ต่อสู้มาก่อนในการแข่งขันชิงแชมป์เยาวชนเอเชีย แต่ครั้งนี้ก็ยากกว่าเดิม” เขายังเสริมอีกว่า “สำหรับรอบต่อไป ผมจะต้องศึกษาคู่ต่อสู้จากอินเดียให้ดี และจะโฟกัสไปทีละรอบ ตอนนี้ผมรู้สึกผ่อนคลายขึ้น แต่ก็ยังมีความกดดันอยู่บ้างเพราะยังไม่ได้ตั๋วไปโอลิมปิก”
มุมมองจากโค้ช
ร.ต.สุฤทธิ์ ยิ่งกำแหง หัวหน้าโค้ชทีมมวยชาย ได้แสดงความเชื่อมั่นในตัวพีรภัทร์ โดยกล่าวว่า “วันนี้พีรภัทร์ชกได้ตามแผนที่เราวางไว้ทุกอย่าง เขาทำได้ดีมาก และผมเชื่อว่าเราจะผ่านคู่ต่อสู้จากอินเดียได้ในรอบต่อไป พีรภัทร์มีพัฒนาการที่ดีขึ้นเรื่อยๆ และมีความเชื่อมั่นในตัวเองมากขึ้น”
ก้าวต่อไปสู่ความฝัน
พีรภัทร์จะเข้าสู่รอบ 16 คนสุดท้าย โดยจะพบกับ เดฟ นิชานท์ นักชกจากอินเดีย ในวันพุธที่ 29 พฤษภาคม เวลา 18.30 น. การแข่งขันครั้งนี้ถือเป็นอีกก้าวสำคัญในการไล่ล่าความฝันสู่การเป็นตัวแทนประเทศไทยในมหกรรมกีฬาโอลิมปิก 2024 ที่กรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส
แฟนมวยชาวไทยทุกคนต่างเฝ้ารอชมและให้กำลังใจพีรภัทร์ในการก้าวไปสู่ชัยชนะครั้งต่อไป เพื่อคว้าโอกาสอันยิ่งใหญ่ในการสร้างชื่อเสียงให้กับประเทศไทยบนเวทีระดับโลก
