วันที่ 11 มิถุนายน 2567 กรมอุตุนิยมวิทยาออกประกาศเตือนประชาชนทั่วประเทศให้ระวังสภาพอากาศแปรปรวน โดยคาดการณ์ว่าจะมีฝนตกหนักถึงหนักมากใน 37 จังหวัด รวมถึงกรุงเทพมหานครและปริมณฑล ซึ่งมีโอกาสเกิดฝนฟ้าคะนองสูงถึงร้อยละ 60 ของพื้นที่
สาเหตุของสภาพอากาศแปรปรวนครั้งนี้เกิดจากร่องมรสุมที่พาดผ่านภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมทั่วประเทศไทย ทำให้เกิดฝนตกหนักและมีความเสี่ยงน้ำท่วมฉับพลันในหลายพื้นที่
พื้นที่ที่ได้รับผลกระทบมากที่สุดได้แก่:
- ภาคเหนือ: แม่ฮ่องสอน เชียงใหม่ เชียงราย พะเยา น่าน อุตรดิตถ์ ตาก พิษณุโลก และเพชรบูรณ์
- ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ: เลย หนองบัวลำภู หนองคาย บึงกาฬ อุดรธานี สกลนคร นครพนม มุกดาหาร อำนาจเจริญ และอุบลราชธานี
- ภาคกลาง: นครสวรรค์ อุทัยธานี กาญจนบุรี และราชบุรี
- ภาคตะวันออก: นครนายก ปราจีนบุรี ชลบุรี ระยอง จันทบุรี และตราด
- ภาคใต้: เพชรบุรี ประจวบคีรีขันธ์ ชุมพร สุราษฎร์ธานี นครศรีธรรมราช ระนอง และพังงา
กรมอุตุนิยมวิทยาเตือนประชาชนในพื้นที่เสี่ยงให้ระมัดระวังอันตรายจากฝนตกหนักและน้ำท่วมฉับพลัน โดยเฉพาะในบริเวณที่ลาดเชิงเขา ใกล้ทางน้ำไหลผ่าน และพื้นที่ลุ่ม
คำแนะนำสำหรับประชาชน:
- ติดตามข่าวสารและประกาศเตือนภัยอย่างใกล้ชิด
- เตรียมพร้อมอพยพหากจำเป็น
- หลีกเลี่ยงการเดินทางในช่วงฝนตกหนัก
- ระวังอันตรายจากสิ่งของที่อาจหล่นทับหรือพังทลาย
- งดกิจกรรมกลางแจ้งในช่วงที่มีพายุฝนฟ้าคะนอง
สำหรับชาวประมงและผู้ที่อาศัยอยู่บริเวณชายฝั่ง กรมอุตุนิยมวิทยาแจ้งว่าคลื่นลมในทะเลอันดามันและอ่าวไทยจะมีกำลังปานกลาง โดยมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร และอาจสูงกว่า 2 เมตรในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง จึงขอให้ชาวเรือเดินเรือด้วยความระมัดระวังและหลีกเลี่ยงการออกเรือในช่วงที่มีพายุ
ทั้งนี้ สภาพอากาศที่แปรปรวนนี้คาดว่าจะยังคงมีต่อเนื่องไปอีกระยะหนึ่ง ประชาชนจึงควรติดตามข่าวสารจากกรมอุตุนิยมวิทยาอย่างใกล้ชิดและปฏิบัติตามคำแนะนำของเจ้าหน้าที่อย่างเคร่งครัด เพื่อความปลอดภัยของตนเองและครอบครัว