ความไม่โปร่งใสในการดำเนินงานของหน่วยงานราชการกำลังถูกเพ่งเล็งอีกครั้ง เมื่อมีการร้องเรียนว่าสำนักงานพระพุทธศาสนาจังหวัดขอนแก่นเรียกรับเงินจากชาวบ้านเพื่อออกใบตราตั้งวัด ล่าสุด ผู้ว่าราชการจังหวัดขอนแก่นได้สั่งการให้ตรวจสอบข้อเท็จจริงภายใน 15 วัน
เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นที่บ้านคำครึ่ง ตำบลหัวนาคำ อำเภอกระนวน จังหวัดขอนแก่น ซึ่งมีวัดที่ตั้งมานานกว่า 80 ปี แต่ยังไม่ได้รับการรับรองอย่างเป็นทางการ ทำให้ชาวบ้านไม่สามารถประกอบพิธีกรรมทางศาสนาได้อย่างสมบูรณ์ โดยเฉพาะพิธีอุปสมบท ทั้งที่อุโบสถได้ก่อสร้างแล้วเสร็จตั้งแต่ปี 2558
ชาวบ้านเปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 18 ตุลาคม 2566 ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่จากหลายหน่วยงาน ประกอบด้วย สำนักงานที่ดิน กรมป่าไม้ และสำนักงานพระพุทธศาสนาจังหวัดขอนแก่น ได้ลงพื้นที่เพื่อตรวจสอบและออกหนังสือรับรองสภาพวัด ซึ่งเป็นขั้นตอนสำคัญก่อนการออกใบตราตั้ง ในวันนั้น ชาวบ้านได้มอบเงินให้เจ้าหน้าที่เป็นจำนวน 23,000 บาท แบ่งเป็นค่าดำเนินการ 20,000 บาท และค่าน้ำมันอีก 3,000 บาท
ความล่าช้าและความไม่โปร่งใสในกระบวนการ
แม้ว่าจะผ่านมากว่า 6 เดือนแล้ว แต่ชาวบ้านยังไม่ได้รับความคืบหน้าใด ๆ เกี่ยวกับการออกใบตราตั้งวัด สร้างความกังวลและความไม่พอใจให้กับชุมชน ซึ่งรอคอยการรับรองอย่างเป็นทางการมาเป็นเวลานาน
นายไกรสร กองฉลาด ผู้ว่าราชการจังหวัดขอนแก่น ได้รับทราบเรื่องนี้และได้ดำเนินการทันที โดยมีคำสั่งแต่งตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริง พร้อมกำหนดกรอบเวลาให้ทราบผลภายใน 15 วัน นอกจากนี้ ผู้ว่าฯ ยังยืนยันว่าการขอใบรับรองสภาพวัดและการออกใบตราตั้งไม่ควรมีค่าใช้จ่ายใด ๆ ซึ่งขัดแย้งกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น
กรณีนี้สะท้อนให้เห็นถึงปัญหาในระบบราชการไทย ที่บางครั้งอาจมีการเรียกรับผลประโยชน์โดยมิชอบ ส่งผลกระทบต่อประชาชนและความเชื่อมั่นในหน่วยงานภาครัฐ การตรวจสอบครั้งนี้จึงมีความสำคัญอย่างยิ่งในการสร้างความโปร่งใสและความเป็นธรรมให้กับประชาชน
ทั้งนี้ ประชาชนและสื่อมวลชนต่างจับตามองผลการตรวจสอบที่จะมีขึ้นในอีก 15 วันข้างหน้า ว่าจะสามารถคลี่คลายปัญหาและนำมาซึ่งความยุติธรรมให้กับชาวบ้านบ้านคำครึ่งได้หรือไม่ รวมถึงจะมีมาตรการป้องกันไม่ให้เกิดเหตุการณ์เช่นนี้ซ้ำอีกในอนาคตอย่างไร