เมื่อวันที่ 20 พฤษภาคม 2566 คริสตินา วิงเคลอร์ ภรรยาของนายกันตพงศ์ บำรุงรักษ์ หรือ “เอส” นักแสดงและพิธีกรชื่อดัง ได้เปิดเผยข้อมูลเกี่ยวกับอาการป่วยของสามีผ่านทางอินสตาแกรมส่วนตัว @thekittyway หลังจากที่เอสประสบเหตุวูบและหมดสติระหว่างปฏิบัติหน้าที่พิธีกรเมื่อวันที่ 10 พฤษภาคมที่ผ่านมา
คริสตินาเปิดเผยว่า ทางครอบครัวได้เลือกที่จะไม่เปิดเผยข้อมูลในทันทีเนื่องจากยังทำใจไม่ได้กับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น อีกทั้งอาการของเอสยังคงอยู่ในภาวะวิกฤต ทำให้ต้องใช้เวลาในการรวบรวมข้อมูลและสติก่อนที่จะแจ้งให้สาธารณชนทราบ
รายละเอียดเหตุการณ์:
เหตุการณ์เกิดขึ้นในระหว่างที่เอสกำลังทำหน้าที่พิธีกรในงาน “Big Debate by Ch7” ณ ลานสยามพารากอน โดยหัวใจของเอสหยุดเต้นกะทันหัน ทำให้ต้องได้รับการช่วยเหลือด้วยการทำ CPR ฉุกเฉินทันที ก่อนที่จะถูกนำตัวส่งโรงพยาบาลที่ใกล้ที่สุดโดยเร็วที่สุด
ทีมแพทย์และเจ้าหน้าที่ฉุกเฉินได้ทำการปั๊มหัวใจเพื่อช่วยชีวิตเอสอย่างต่อเนื่อง โดยใช้เวลาประมาณ 19 นาทีในการทำ CPR ที่สยามพารากอน และรวมเวลาทั้งหมดถึง 45 นาทีในการปั๊มหัวใจ ทั้งที่จุดเกิดเหตุและบนรถฉุกเฉินระหว่างนำส่งโรงพยาบาล ก่อนที่หัวใจของเอสจะกลับมาเต้นอีกครั้ง
อาการปัจจุบันและการวินิจฉัย:
ปัจจุบัน เอสยังคงพักรักษาตัวในห้อง ICU โดยแพทย์ผู้ดูแลได้วินิจฉัยเบื้องต้นว่าเอสมีอาการหัวใจอักเสบ อย่างไรก็ตาม ทีมแพทย์ยังไม่สามารถระบุสาเหตุที่แน่ชัดของอาการดังกล่าวได้ ทำให้ต้องเฝ้าระวังและติดตามอาการอย่างใกล้ชิดแบบวันต่อวัน
นอกจากนี้ ยังพบว่ามีอาการแทรกซ้อนที่หัวใจเพิ่มเติม โดยเมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมา หัวใจของเอสมีปัญหาอีกครั้ง ทำให้แพทย์ต้องทำการช่วยชีวิตเป็นครั้งที่สอง ซึ่งสถานการณ์นี้ยิ่งทำให้การพยากรณ์อาการและระยะเวลาในการฟื้นตัวเป็นไปได้ยากยิ่งขึ้น
การสนับสนุนและกำลังใจจากครอบครัวและวงการบันเทิง
ท่ามกลางความวิตกกังวลเกี่ยวกับอาการป่วยของเอส ครอบครัวและคนใกล้ชิดต่างให้การสนับสนุนและกำลังใจอย่างเต็มที่ คริสตินาได้กล่าวขอบคุณทีมแพทย์ พยาบาล และเจ้าหน้าที่ฉุกเฉินทุกคนที่ทุ่มเทช่วยเหลือชีวิตของเอสอย่างไม่ย่อท้อ รวมถึงช่างแต่งหน้าที่มีไหวพริบในการตัดสินใจเลือกโรงพยาบาลที่ใกล้ที่สุดเพื่อช่วยชีวิตเอสได้ทันท่วงที
นอกจากนี้ ทางสถานีโทรทัศน์ช่อง 7 ต้นสังกัดของเอส ก็ได้ให้การช่วยเหลือและดูแลอย่างเต็มที่ ทั้งในด้านค่ารักษาพยาบาลและการให้กำลังใจมาโดยตลอด แฟนคลับและประชาชนทั่วไปต่างก็ร่วมส่งกำลังใจและความปรารถนาดีมายังครอบครัวของเอสอย่างท่วมท้น
ในขณะนี้ ทางครอบครัวยังไม่สามารถคาดการณ์ได้ว่าเอสจะต้องพักรักษาตัวในห้อง ICU อีกนานเพียงใด และจะสามารถฟื้นตัวได้เต็มที่เมื่อไหร่ อย่างไรก็ตาม ทุกฝ่ายยังคงมีความหวังและรอคอยข่าวดีจากทีมแพทย์ผู้รักษา พร้อมทั้งขอให้ทุกคนร่วมส่งกำลังใจให้กับเอสและครอบครัวในช่วงเวลาอันยากลำบากนี้