เหตุการณ์การโอนเงินผิดบัญชีจำนวน 6,000 บาท ได้สร้างความสนใจให้กับสังคมออนไลน์ เมื่อผู้เสียหายได้เปิดเผยเรื่องราวผ่านเฟซบุ๊กแฟนเพจ “อยากดังเดี๋ยวจัดให้ รีเทิร์น part 7” โดยเล่าถึงความพยายามในการติดต่อขอเงินคืนจากผู้รับโอน ซึ่งอาศัยอยู่ในจังหวัดกำแพงเพชร
ผู้เสียหายได้ดำเนินการตามขั้นตอนทางกฎหมายโดยการแจ้งความที่สถานีตำรวจคอหงส์ อำเภอหาดใหญ่ และติดต่อธนาคารกรุงเทพ สาขาจังหวัดสงขลา เพื่อขอความช่วยเหลือในการติดต่อผู้รับโอน อย่างไรก็ตาม การติดต่อกับผู้รับโอนกลับเป็นไปอย่างยากลำบาก โดยมีการหลบเลี่ยงการรับโทรศัพท์และปฏิเสธที่จะคืนเงินทั้งจำนวน
ข้อเสนอที่ไม่สมเหตุสมผล
เมื่อการติดต่อสำเร็จในที่สุด ผู้รับโอนกลับเสนอทางเลือกที่ไม่สมเหตุสมผล โดยขอผ่อนคืนเงินเพียงวันละ 10-20 บาทเท่านั้น ซึ่งหากคำนวณระยะเวลาในการชำระคืนทั้งหมด อาจต้องใช้เวลานานถึง 1-2 ปี ทั้งนี้ ผู้รับโอนยังอ้างว่าตนเองไม่ได้ทำผิด และเชื่อว่าเงินดังกล่าวเป็นของตนเอง
มุมมองทางกฎหมาย
ทนายความชื่อดัง นายเดชา กิตติวิทยานันท์ หรือที่รู้จักกันในนาม “ทนายเดชา” ได้แสดงความคิดเห็นผ่านเพจเฟซบุ๊ก “ทนายคลายทุกข์” โดยชี้แจงว่าการกระทำของผู้รับโอนในกรณีนี้ถือเป็นความผิดตามกฎหมาย
ทนายเดชาอธิบายว่า ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 352 วรรค 2 ผู้ที่ได้รับเงินโอนมาโดยผิดบัญชีหรือโดยการสำคัญผิด มีหน้าที่ต้องโอนเงินคืนให้แก่เจ้าของที่แท้จริงโดยทันที หากไม่ดำเนินการดังกล่าว จะถือว่ามีความผิดฐานยักยอกทรัพย์ ซึ่งมีโทษจำคุกไม่เกิน 1 ปี 6 เดือน หรือปรับไม่เกิน 30,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
แนวทางการดำเนินการต่อไป
ทนายเดชาได้เสนอแนะให้เจ้าหน้าที่ตำรวจดำเนินการออกหมายเรียกผู้ต้องหามารับทราบข้อกล่าวหา พร้อมทั้งเรียกร้องให้เจ้าหน้าที่ตำรวจปฏิบัติหน้าที่อย่างเต็มที่ในฐานะผู้พิทักษ์สันติราษฎร์ เพื่อช่วยเหลือประชาชนผู้เสียหายในกรณีนี้
ผลกระทบต่อสังคม
เหตุการณ์นี้ได้สร้างความตระหนักในสังคมเกี่ยวกับความระมัดระวังในการทำธุรกรรมทางการเงินออนไลน์ รวมถึงการรับมือกับสถานการณ์เมื่อเกิดความผิดพลาดในการโอนเงิน นอกจากนี้ ยังเป็นการตอกย้ำถึงความสำคัญของความซื่อสัตย์และความรับผิดชอบต่อสังคม โดยเฉพาะในกรณีที่ได้รับผลประโยชน์โดยไม่ได้ตั้งใจ
กรณีนี้ยังคงอยู่ในความสนใจของสังคม และหลายฝ่ายกำลังติดตามผลการดำเนินการทางกฎหมายต่อไป เพื่อให้เกิดความยุติธรรมแก่ผู้เสียหายและเป็นบรรทัดฐานสำหรับกรณีที่อาจเกิดขึ้นในอนาคต