ในช่วงปิดเทอมฤดูร้อน เรื่องราวสะเทือนใจของครอบครัวหนึ่งในประเทศจีนได้กลายเป็นประเด็นที่ถูกพูดถึงอย่างกว้างขวางในโลกออนไลน์ เมื่อคุณแม่ชาวจีนนามว่า “คุณหลี่” ต้องเผชิญกับความเปลี่ยนแปลงอันน่าตกใจของลูกสาววัย 4 ขวบ หลังจากฝากให้คุณยายช่วยดูแลเพียงแค่ 1 เดือน
สาเหตุของการฝากเลี้ยง
เนื่องด้วยภาระงานที่รัดตัวของทั้งคุณหลี่และสามี ทำให้พวกเขาไม่สามารถดูแลลูกสาวได้อย่างเต็มที่ในช่วงปิดเทอม จึงตัดสินใจส่งลูกไปอยู่กับคุณยาย ด้วยความเชื่อมั่นว่าจะปลอดภัยและได้รับการดูแลอย่างดี มากกว่าการจ้างพี่เลี้ยงเด็กที่ไม่คุ้นเคย
ความเปลี่ยนแปลงที่น่าตกใจ
เมื่อถึงเวลารับลูกสาวกลับบ้าน คุณหลี่แทบไม่เชื่อสายตาตัวเอง เด็กหญิงตัวน้อยที่เคยมีรูปร่างปกติ กลับกลายเป็นเด็กอ้วนท้วมจนแทบจำไม่ได้ แม้จะขยี้ตามองหลายครั้ง ใบหน้ากลมเหมือนเกี๊ยว ดวงตาหรี่ลงจนแทบปิด และที่น่าตกใจที่สุดคือน้ำหนักที่เพิ่มขึ้นถึง 10 กิโลกรัมในเวลาเพียง 1 เดือน
มุมมองที่แตกต่างระหว่างรุ่น
เมื่อสอบถามถึงสาเหตุ คุณยายได้แสดงความคิดเห็นว่า เด็กควรมีรูปร่าง “อ้วนหน่อย” จึงจะดูน่ารักและมีพัฒนาการที่ดี จึงเป็นเหตุให้บังคับให้หลานสาวกินอาหารมากขึ้น รวมถึงตามใจให้รับประทานขนม ลูกอม และดื่มน้ำอัดลมอย่างเต็มที่
ผลกระทบต่อสุขภาพ
ด้วยความกังวลอย่างมาก คุณหลี่จึงพาลูกสาวไปตรวจสุขภาพที่โรงพยาบาลทันที ผลการตรวจพบว่าเด็กหญิงมีน้ำหนักเกินและมีสัญญาณของโรคอ้วน ซึ่งอาจส่งผลเสียต่อสุขภาพในระยะยาวได้
ความเข้าใจผิดเกี่ยวกับการเลี้ยงดูเด็ก
ปัญหานี้สะท้อนให้เห็นถึงความเข้าใจผิดที่มีอยู่ในสังคม โดยเฉพาะในกลุ่มผู้สูงอายุ ที่เชื่อว่าเด็กอ้วนคือเด็กที่แข็งแรงและได้รับการเลี้ยงดูอย่างดี แต่ในความเป็นจริงแล้ว การกินมากเกินไปอาจนำมาซึ่งปัญหาสุขภาพมากมายสำหรับเด็ก
แนวทางการแก้ไขปัญหา
สำหรับครอบครัวที่ต้องฝากลูกหลานให้ปู่ย่าตายายดูแล ควรมีการพูดคุยและทำความเข้าใจเกี่ยวกับวิธีการเลี้ยงดูที่ถูกต้องตามหลักโภชนาการสมัยใหม่ เพื่อให้เด็กได้รับสารอาหารที่เหมาะสมและมีสุขภาพที่ดีในระยะยาว
กรณีของคุณหลี่และลูกสาวนี้ เป็นบทเรียนสำคัญที่ช่วยกระตุ้นให้สังคมตระหนักถึงความสำคัญของการดูแลสุขภาพเด็ก และการสื่อสารระหว่างรุ่นในครอบครัวเพื่อการเลี้ยงดูที่เหมาะสมต่อไป