การแข่งขันฟุตบอลยูโร 2024 รอบรองชนะเลิศ ระหว่าง “กระทิงดุ” สเปน และ “ตราไก่” ฝรั่งเศส ได้จัดขึ้นที่สนามมิวนิค ฟุตบอล อารีน่า เมื่อคืนวันอังคารที่ 9 กรกฎาคม 2567 โดยทั้งสองทีมต่างเข้าสู่สนามด้วยความมุ่งมั่นที่จะคว้าชัยชนะเพื่อผ่านเข้าสู่รอบชิงชนะเลิศ
เกมเริ่มต้นอย่างดุเดือด โดยฝรั่งเศสเป็นฝ่ายออกนำก่อนในนาทีที่ 9 เมื่อ คีลิยัน เอ็มบัปเป้ แข้งตัวเก่งได้บอลทางฝั่งขวาก่อนเปิดบอลอย่างแม่นยำไปที่เสาสอง ให้ ร็องดาล โกโล่ มูอานี่ โหม่งตุงตาข่ายอย่างสวยงาม ทำให้ฝรั่งเศสนำ 1-0
อย่างไรก็ตาม สเปนไม่ยอมแพ้ง่ายๆ พวกเขาพยายามโต้กลับอย่างหนัก จนกระทั่งนาทีที่ 21 ลามีน ยามาล ได้โอกาสยิงจากระยะกว่า 20 หลาหน้าเขตโทษ บอลพุ่งโค้งเข้าประตูอย่างสวยงาม ทำให้สกอร์กลับมาเท่ากันที่ 1-1
การพลิกเกมอย่างน่าทึ่งของสเปน
หลังจากตามตีเสมอได้ สเปนดูเหมือนจะได้ใจ พวกเขาเดินหน้าบุกอย่างหนัก และในนาทีที่ 25 ดานี่ โอลโม่ ก็สามารถทำประตูที่สองให้กับทีมได้ด้วยลูกยิงสุดสวยจากในเขตโทษ หลังจากโชว์ทักษะการหลบหลีกนักเตะฝรั่งเศสได้อย่างยอดเยี่ยม ทำให้สเปนพลิกนำ 2-1 และจบครึ่งแรกด้วยสกอร์นี้
ในครึ่งหลัง ฝรั่งเศสพยายามอย่างหนักที่จะตีเสมอ โดยมีโอกาสที่ดีที่สุดในนาทีที่ 61 เมื่อ อุสมาน เดมเบเล่ หลุดเดี่ยวเข้าเขตโทษ แต่ อูไน ซิม่อน ผู้รักษาประตูของสเปนก็ทำการเซฟได้อย่างยอดเยี่ยม
แม้ว่าฝรั่งเศสจะพยายามอย่างหนักในช่วงท้ายเกม โดยเฉพาะ คีลิยัน เอ็มบัปเป้ ที่มีโอกาสยิงในนาทีที่ 86 แต่ก็ไม่สามารถทำประตูได้ จบเกม สเปนเอาชนะฝรั่งเศสไปได้ด้วยสกอร์ 2-1 ทำให้พวกเขาผ่านเข้าสู่รอบชิงชนะเลิศ โดยจะรอพบกับผู้ชนะระหว่าง อังกฤษ กับ เนเธอร์แลนด์ ต่อไ
การแข่งขันครั้งนี้แสดงให้เห็นถึงความแข็งแกร่งและความมุ่งมั่นของทีมชาติสเปน ที่สามารถพลิกเกมจากการเสียประตูก่อนมาเป็นฝ่ายชนะได้ในที่สุด ในขณะที่ฝรั่งเศสแม้จะพ่ายแพ้ แต่ก็แสดงให้เห็นถึงศักยภาพที่ยอดเยี่ยมตลอดทั้งเกม
รายชื่อผู้เล่นของทั้งสองทีม
**สเปน (4-3-3) :** อูไน ซิม่อน, เฆซุส นาบาส, นาโช่ เฟร์นานเดซ, เอมเมอริค ลาป๊อร์กต์, มาร์ก กูกูเรย่า, ดานี่ โอลโม่, โรดรี้ เอร์นานเดซ, ฟาเบียน รุยซ์, ลามีน ยามาล, นิโก้ วิลเลี่ยมส์, อัลบาโร่ โมราต้า
**ฝรั่งเศส (4-3-3) :** ไมค์ เมนญอง, ชูลส์ กุนเด้, วิลเลี่ยม ซาลิบา, ดาโย่ต์ อูปาเมกาโน่, เตโอ แอร์กน็องเดซ, เอ็นโกโล่ ก็องเต้, โอเรเลียง ชูอาเมนี่, อาเดรียง ราบิโอต์, อุสมาน เดมเบเล่, ร็องดาล โกโล่ มูอานี่, คีลิยัน เอ็มบัปเป้
