รัฐบาลเปิดตัว “หวยเกษียณ” โครงการสลากออมทรัพย์เพื่อสร้างแรงจูงใจในการออมเงิน

รัฐบาลไทยได้อนุมัติโครงการ “หวยเกษียณ” อย่างเป็นทางการ โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อส่งเสริมการออมเงินในหมู่ประชาชน โดยเฉพาะกลุ่มแรงงานนอกระบบและผู้ที่ไม่มีหลักประกันทางการเงินที่มั่นคงสำหรับวัยเกษียณ นายเผ่าภูมิ โรจนสกุล รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง ได้เปิดเผยรายละเอียดของโครงการนี้ หลังจากที่ได้รับการอนุมัติในหลักการจากที่ประชุมคณะรัฐมนตรี

รายละเอียดของโครงการหวยเกษียณ:

  1. ราคาและวงเงิน: สลากมีราคาใบละ 50 บาท โดยผู้ซื้อสามารถซื้อได้ไม่เกิน 3,000 บาทต่อเดือน
  2. ช่องทางการซื้อ: สามารถซื้อผ่านแอปพลิเคชัน กอช. ได้ตลอด 24 ชั่วโมง
  3. การออกรางวัล: จะมีการออกรางวัลทุกวันศุกร์ เวลา 17.00 น.
  4. โครงสร้างรางวัล: 

   – รางวัลที่ 1: มูลค่า 1,000,000 บาท จำนวน 5 รางวัล

   – รางวัลที่ 2: มูลค่า 1,000 บาท จำนวน 10,000 รางวัล

  1. การรับเงินรางวัล: ผู้ถูกรางวัลสามารถถอนเงินรางวัลได้ทันที
  2. กลุ่มเป้าหมาย: ผู้มีสิทธิซื้อสลากแบ่งเป็น 3 กลุ่ม ได้แก่ สมาชิก กอช. แรงงานนอกระบบ และผู้ประกันตนมาตรา 40

ประโยชน์ด้านการออมและความมั่นคงทางการเงิน

โครงการหวยเกษียณนี้ไม่เพียงแต่เป็นการสร้างแรงจูงใจในการออมเงินเท่านั้น แต่ยังมีประโยชน์ด้านความมั่นคงทางการเงินในระยะยาวด้วย นายเผ่าภูมิ ย้ำว่า ไม่ว่าผู้ซื้อจะถูกรางวัลหรือไม่ เงินที่ใช้ซื้อสลากทุกบาทจะถูกเก็บไว้ในบัญชีเงินออมส่วนบุคคลผ่าน กอช. ซึ่งจะสามารถถอนคืนได้เมื่ออายุครบ 60 ปี นอกจากนี้ เงินในบัญชียังได้รับผลตอบแทนจากการลงทุนตลอดระยะเวลาก่อนเกษียณอีกด้วย

รัฐบาลคาดว่าจะใช้งบประมาณในการสนับสนุนเงินรางวัลประมาณ 15 ล้านบาทต่องวด หรือประมาณ 700-800 ล้านบาทต่อปี ซึ่งถือว่าเป็นการใช้งบประมาณที่ไม่สูงมากนักเมื่อเทียบกับประโยชน์ที่จะได้รับในด้านการส่งเสริมการออมของประชาชน

ในขั้นตอนต่อไป กระทรวงการคลังจะเร่งดำเนินการแก้ไขเพิ่มเติมพระราชบัญญัติกองทุนการออมแห่งชาติ (กอช.) เพื่อรองรับการดำเนินโครงการหวยเกษียณ โดยคาดว่าจะสามารถเริ่มโครงการได้ไม่เกินต้นปี 2568

โครงการหวยเกษียณนี้ถือเป็นนวัตกรรมทางการเงินที่น่าสนใจ ซึ่งผสมผสานแนวคิดของการพนันที่ถูกกฎหมายเข้ากับการส่งเสริมการออมเงินระยะยาว อย่างไรก็ตาม ยังคงต้องติดตามผลการดำเนินงานและผลกระทบในระยะยาวต่อไป เพื่อประเมินประสิทธิภาพและความยั่งยืนของโครงการนี้ในการแก้ปัญหาการขาดแคลนเงินออมสำหรับวัยเกษียณของประชาชนไทย