“ชาวบ้านตื่นตะลึง! ‘หลวงปู่หำ’ มอบตัวเลขลึกลับก่อนมรณภาพ เชื่อเป็นเลขนำโชค”

เมื่อวันที่ 25 กรกฎาคม 2567 เกิดเหตุการณ์ที่สร้างความตื่นตะลึงให้กับชาวบ้านและศรัทธาในพื้นที่จังหวัดอุดรธานี เมื่อพระครูอุดรสันติคุณ หรือที่รู้จักกันในนาม “หลวงปู่หำ” เจ้าอาวาสวัดศรีดาราม ได้มรณภาพลงอย่างสงบ ท่ามกลางความอาลัยของญาติโยมและพุทธศาสนิกชนทั่วไป

ความพิเศษของเหตุการณ์ครั้งนี้ไม่ได้อยู่ที่การจากไปของหลวงปู่เพียงอย่างเดียว แต่ยังมีเรื่องราวลึกลับที่เกิดขึ้นก่อนหน้านั้นไม่นาน ซึ่งได้กลายเป็นที่กล่าวขวัญกันอย่างกว้างขวางในหมู่ผู้ที่เคารพศรัทธา

นายวีระพล รักเสมอวงศ์ แอดมินเพจบ้านดุงอัพเดท ได้เปิดเผยถึงเหตุการณ์อันน่าประหลาดใจที่เกิดขึ้น โดยเล่าว่า “เมื่อหลายวันก่อน ผมได้รับการติดต่อจากญาติโยมของวัดศรีดาราม ให้ไปรับหลวงปู่หำที่โรงพยาบาลศูนย์อุดรธานีกลับวัด ตามความประสงค์ของท่านและญาติโยม ระหว่างทาง หลวงปู่พยายามจะบอกอะไรบางอย่าง แต่เนื่องจากสภาพร่างกายที่อ่อนแรง ทำให้ฟังไม่ชัดเจน ผมจึงขอให้ท่านเขียนลงบนกระดาษแทน”

สิ่งที่หลวงปู่หำเขียนลงไปนั้น กลับกลายเป็นตัวเลขที่สร้างความฉงนให้กับผู้พบเห็น นั่นคือตัวเลข “96,19” ซึ่งไม่มีใครทราบความหมายที่แท้จริง แต่หลายคนเชื่อว่านี่อาจเป็นเลขนำโชคที่หลวงปู่ต้องการมอบให้เป็นครั้งสุดท้ายก่อนมรณภาพ

ประวัติและผลงานของหลวงปู่หำ

หลวงปู่หำ หรือพระครูอุดรสันติคุณ เป็นที่รู้จักกันดีในฐานะเจ้าอาวาสวัดศรีดาราม ซึ่งตั้งอยู่ที่บ้านคำสีดา ตำบลนาชุมแสง อำเภอทุ่งฝน จังหวัดอุดรธานี ท่านเป็นพระเถระที่ได้รับความเคารพนับถือจากชาวบ้านในพื้นที่และผู้แสวงบุญจากทั่วประเทศ

วัดศรีดารามภายใต้การนำของหลวงปู่หำ มีชื่อเสียงโด่งดังจากการสร้างรูปปั้นพญานาคขนาดใหญ่ ความยาวถึง 131 เมตร ที่เลื้อยขึ้นมาจากหนองน้ำคำสีดา ซึ่งกลายเป็นสถานที่ท่องเที่ยวและสักการะที่สำคัญของจังหวัดอุดรธานี โดยมีผู้คนมากมายเดินทางมาขอพรและความเป็นสิริมงคลจากพ่อปู่ศรีสุทโธอย่างไม่ขาดสาย

การจากไปของหลวงปู่หำสร้างความอาลัยอย่างใหญ่หลวงให้กับชุมชนและศรัทธาชน ทางวัดได้จัดพิธีสวดพระอภิธรรมระหว่างวันที่ 23-31 กรกฎาคม 2567 และกำหนดวันประชุมเพลิงในวันพฤหัสบดีที่ 1 สิงหาคม 2567

แม้หลวงปู่หำจะจากไปแล้ว แต่ตัวเลขลึกลับที่ท่านทิ้งไว้ยังคงเป็นที่กล่าวขานและตีความกันอย่างกว้างขวาง บางคนเชื่อว่าเป็นเลขนำโชค ในขณะที่บางคนมองว่าอาจเป็นรหัสลับที่มีความหมายพิเศษ อย่างไรก็ตาม เรื่องราวนี้ได้กลายเป็นตำนานที่จะถูกเล่าขานต่อไปในหมู่ผู้ที่เคารพศรัทธาหลวงปู่หำ และผู้ที่สนใจในเรื่องราวลึกลับทางจิตวิญญาณ