ในรายการคุยแซ่บ Show ทางช่องOne31 ที่มี เบนซ์ พรชิตา และ ซินแสเป็นหนึ่ง เป็นพิธีกร เสนาหอย หรือ เกียรติศักดิ์ อุดมนาค ได้เปิดใจเกี่ยวกับความรักของเขากับ น้องเค้กส้ม แฟนสาวคนปัจจุบัน พร้อมทั้งเผยถึงเหตุผลที่ไม่อยากจะมีงานแต่งงาน นอกจากนี้ยังได้ควง ซาร่า-นลิน โฮเลอร์ น้องสาวคนสนิทมาร่วมพูดคุยถึงความสัมพันธ์อันแน่นแฟ้นระหว่างทั้งคู่
ความทรงจำที่ทำให้ไม่อยากแต่งงาน
เสนาหอยเล่าถึงเหตุการณ์ในอดีตที่ทำให้เขาไม่อยากจะมีงานแต่งงาน โดยเล่าว่าเคยมีผู้หญิงคนหนึ่งเดินมาบอกเขาว่าจะมาแต่งงาน แต่เขากลับตอบปฏิเสธไปว่าไม่พร้อม ทั้งๆ ที่ความจริงแล้วหญิงคนนั้นไม่ได้จะมาแต่งงานกับเขา แต่กำลังจะไปแต่งงานกับคนอื่น เหตุการณ์นี้ทำให้เขารู้สึกช็อกและเป็นภาพจำที่ติดตาตรึงใจมาจนถึงปัจจุบัน
เสนาหอยกล่าวว่า “ผมบอกน้องส้มก่อนที่เราจะจับมือกันว่า เราจะไปด้วยกันโดยไม่แต่งงานได้ไหม เพราะการแต่งงานในความคิดผมอาจจะคิดไม่ถูกก็ได้ มันเหมือนเป็นการผูกมัด สัญญาทุกอย่างว่าต้องรักตลอดชีวิต แต่ถ้าเราจะรักกัน ไม่ต้องมีตัวหนังสือ ไม่ต้องมีงาน แค่เราจับมือไม่ปล่อยดีกว่าไหม”
ความสัมพันธ์กับซาร่า และการให้โอกาสในวงการบันเทิง
เสนาหอยและซาร่าได้เล่าถึงจุดเริ่มต้นของความสัมพันธ์ที่แน่นแฟ้นระหว่างทั้งคู่ โดยเริ่มจากการที่เสนาหอยได้ให้โอกาสซาร่าในการกลับเข้าสู่วงการบันเทิงหลังจากที่เธอกลับมาจากประเทศจีน
ซาร่าเล่าว่า “ตอนที่เรากลับมาจากจีน เหมือนเป็นการเริ่มต้นใหม่ เพราะหายไปจากวงการบันเทิงไปนานมาก และพี่หอยเป็นคนให้โอกาส” เธอยังเสริมอีกว่า “ถ้าไม่มีพี่ในวันนั้น ก็ไม่มีซาร่าในวันนี้”
เสนาหอยเล่าถึงความประทับใจในตัวซาร่าตั้งแต่ครั้งแรกที่พบกัน “ผมว่าคนนี้มีแวว เขามีอารมณ์ขันที่แปลกๆ ถ้าเป็นคนอื่นเขาไม่เล่น เลยคิดว่าคนนี้น่าสนับสนุน”
มุมมองความรักในปัจจุบัน
เสนาหอยเปิดเผยถึงความรักในปัจจุบันของเขากับน้องเค้กส้มว่า “ทุกวันนี้ความรักมันนิ่ง เมื่อก่อนความรักของผมมันขึ้นลง แต่ตอนนี้ผมบอกได้เลยสต๊อปอยู่ตรงนี้แบบนิ่งๆ ทำอะไรก็ได้ให้ชีวิตเรา ปักหมุดแล้วว่านี่แหละใช่”
ในขณะที่ซาร่าก็เห็นด้วยกับแนวคิดนี้ โดยเธอกล่าวว่า “ถ้าเราโอเคกับคนคนนี้แล้วเขาให้อะไรเราที่เรารู้สึกว่าเพียงพอสำหรับเรา แค่นั้นก็พอ”
การสนทนาในรายการนี้ไม่เพียงแต่เผยให้เห็นถึงมุมมองความรักของเสนาหอยเท่านั้น แต่ยังแสดงให้เห็นถึงความสัมพันธ์อันแน่นแฟ้นระหว่างเขากับซาร่า ที่เริ่มต้นจากการให้โอกาสในวงการบันเทิง จนกลายเป็นความผูกพันที่ลึกซึ้งเสมือนพี่น้อง นอกจากนี้ยังสะท้อนให้เห็นถึงมุมมองความรักของคนรุ่นใหม่ที่ไม่ยึดติดกับพิธีการแต่งงาน แต่ให้ความสำคัญกับความรักและการอยู่เคียงข้างกันมากกว่า