เด็กชายจีนสร้างความฮือฮา! อ้างป่วยทุกเช้าเพื่อหนีโรงเรียน คำตอบสุดกวนทำพ่อแม่อึ้ง

ในโลกของผู้ปกครอง การพาลูกไปโรงเรียนในตอนเช้าอาจเป็นภารกิจที่ท้าทายอย่างคาดไม่ถึง โดยเฉพาะเมื่อเด็กๆ พยายามหาข้ออ้างเพื่อหลีกเลี่ยงการไปเรียน เหตุการณ์เช่นนี้เกิดขึ้นบ่อยครั้งในครอบครัวทั่วโลก และล่าสุดได้เกิดเหตุการณ์ที่สร้างความฮือฮาในโลกออนไลน์ของประเทศจีน

คลิปวิดีโอที่บันทึกโดยคุณพ่อชาวจีนได้เผยให้เห็นฉากการโต้เถียงระหว่างภรรยาของเขากับลูกชายวัยอนุบาล ซึ่งพยายามอ้างว่าตัวเองป่วยเพื่อหลีกเลี่ยงการไปโรงเรียน เมื่อคลิปนี้ถูกแชร์บนโซเชียลมีเดีย มันก็กลายเป็นไวรัลอย่างรวดเร็ว ทำให้ผู้ชมหลายคนอดขำไม่ได้กับความน่ารักและความฉลาดแกมกวนของเด็กชายคนนี้

ในคลิปดังกล่าว เราจะได้ยินคุณแม่ถามลูกชายด้วยน้ำเสียงหงุดหงิดว่า “ทุกเช้าที่จะพาไปโรงเรียนอนุบาล ปวดท้อง ไม่ก็เจ็บขา บอกแม่หน่อยมีจุดไหนที่ไม่เจ็บบ้าง?” คำถามนี้สะท้อนให้เห็นว่าสถานการณ์แบบนี้เกิดขึ้นบ่อยครั้งในครอบครัวนี้

ลูกชายตอบกลับมาอย่างรวดเร็วและน้ำตาคลอว่า “วันเสาร์อาทิตย์ไม่ปวดนะแม่” คำตอบนี้ทำให้คุณแม่ถึงกับอึ้งไปชั่วขณะ ก่อนที่จะถามต่อว่า “แล้วปวดท้องเมื่อไหร่?”

เด็กชายตอบอย่างละเอียดและตรงไปตรงมาว่า “ตั้งแต่วันจันทร์ถึงศุกร์ เวลา 8 โมงเช้าก็เริ่มปวดท้อง” คำตอบนี้ทำให้คุณพ่อที่กำลังถ่ายวิดีโออยู่หลุดหัวเราะออกมาอย่างกลั้นไม่อยู่ ในขณะที่คุณแม่เดินออกจากห้องไปด้วยอาการหงุดหงิด

ความคิดเห็นของชาวเน็ต: เสียงสะท้อนจากผู้ปกครองทั่วโลก

หลังจากคลิปนี้ถูกแชร์ออกไป มันได้รับความสนใจอย่างล้นหลามจากชาวเน็ตทั่วโลก โดยเฉพาะจากบรรดาพ่อแม่ที่ต่างเข้ามาแสดงความคิดเห็นและแบ่งปันประสบการณ์ของตนเอง

– “ฉันก็เป็นแม่คน และเคยเจอเรื่องที่หมดหนทางแบบนั้นเหมือนกัน” คุณแม่ท่านหนึ่งแสดงความเห็นอกเห็นใจ
– “ทุกเช้าก็เหมือนสงคราม” อีกความเห็นสะท้อนความยากลำบากในการพาลูกไปโรงเรียน
– “เด็กพวกนี้รู้วิธีเลือกเวลาป่วย พอบอกจะพาไปเที่ยวก็วิ่งฉิว แต่พอบอกจะพาไปโรงเรียน ก็ทำท่าปวดท้องและวิงเวียนศีรษะ” ความเห็นนี้สะท้อนให้เห็นถึงความฉลาดแกมกวนของเด็กๆ

เหตุการณ์นี้ไม่เพียงแต่สร้างเสียงหัวเราะให้กับผู้ชมเท่านั้น แต่ยังเป็นการย้ำเตือนว่าการเลี้ยงดูเด็กนั้นเต็มไปด้วยความท้าทายและเรื่องราวน่าขันในชีวิตประจำวัน ในขณะเดียวกัน มันก็แสดงให้เห็นถึงความสำคัญของความอดทนและอารมณ์ขันในการเป็นพ่อแม่ เพราะบางครั้ง สถานการณ์ที่น่าหงุดหงิดที่สุดก็อาจกลายเป็นช่วงเวลาที่น่าจดจำและสร้างรอยยิ้มให้กับทุกคนได้ในภายหลัง