“ราชันชุดขาว” ผงาดคว้าแชมป์ยูฟ่า ซูเปอร์ คัพ สมัยที่ 6 หลังเอาชนะ อตาลันต้า

เรอัล มาดริด ยืนยันความยิ่งใหญ่ในวงการฟุตบอลยุโรปอีกครั้ง หลังเปิดฉากฤดูกาลใหม่ด้วยการคว้าแชมป์ยูฟ่า ซูเปอร์ คัพ 2024 มาครองได้สำเร็จ จากชัยชนะเหนือ อตาลันต้า ทีมจากอิตาลี ด้วยสกอร์ 2-0 ในการแข่งขันที่สนาม สตาดิโอน นาโดโรวี่ ประเทศสโลวาเกีย เมื่อคืนวันพุธที่ 14 สิงหาคม ที่ผ่านมา

การแข่งขันในครึ่งแรกเป็นไปอย่างสูสีและเข้มข้น โดยทีม “ราชันชุดขาว” แสดงให้เห็นถึงความเหนือชั้นในการครองเกมและสร้างโอกาสในการทำประตูอย่างต่อเนื่อง แต่ด้วยการป้องกันที่แข็งแกร่งของ อตาลันต้า ทำให้จบ 45 นาทีแรกด้วยสกอร์ 0-0

 การเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญในครึ่งหลัง

เมื่อเริ่มการแข่งขันในครึ่งหลัง เรอัล มาดริด ได้แสดงให้เห็นถึงการปรับแผนการเล่นที่มีประสิทธิภาพมากขึ้น โดยในนาทีที่ 59 วินิซิอุส จูเนียร์ ปีกตัวจี๊ดชาวบราซิล ได้แสดงทักษะอันยอดเยี่ยมด้วยการหลบหลีกกองหลังคู่แข่งก่อนที่จะส่งบอลเรียดไปให้ เฟเดริโก้ วัลเวร์เด้ วิ่งเข้ามายิงตุงตาข่าย พาทีมขึ้นนำ 1-0

หลังจากได้ประตูแรก ทีมราชันชุดขาวยิ่งเพิ่มความกดดันมากขึ้น และในนาทีที่ 68 จู๊ด เบลลิงแฮม มิดฟิลด์ดาวรุ่งชาวอังกฤษ ได้แสดงวิสัยทัศน์อันยอดเยี่ยมด้วยการจ่ายบอลทะลุช่องให้ คีลิยัน เอ็มบัปเป้ กองหน้าความเร็วสูงวิ่งเข้าไปยิงประตูที่สอง ทำให้สกอร์ขยับเป็น 2-0

ด้วยชัยชนะครั้งนี้ เรอัล มาดริด ไม่เพียงแต่คว้าแชมป์ยูฟ่า ซูเปอร์ คัพ มาครองเท่านั้น แต่ยังสร้างสถิติใหม่ด้วยการเป็นแชมป์รายการนี้เป็นสมัยที่ 6 ซึ่งถือเป็นสถิติสูงสุดในประวัติศาสตร์ของการแข่งขัน

การแข่งขันครั้งนี้ยังแสดงให้เห็นถึงความแข็งแกร่งของทีมเรอัล มาดริด ภายใต้การนำทัพของโค้ชคาร์โล อันเชล็อตติ และความสามารถในการผสมผสานระหว่างนักเตะประสบการณ์สูงอย่าง ติโบต์ กูร์กตัวส์ และ ดานี่ การ์บาฆาล กับดาวรุ่งพุ่งแรงอย่าง จู๊ด เบลลิงแฮม และ วินิซิอุส จูเนียร์ ได้อย่างลงตัว

ในขณะที่ อตาลันต้า แม้จะพ่ายแพ้ แต่ก็ได้แสดงให้เห็นถึงศักยภาพที่น่าจับตามองภายใต้การนำของโค้ช จานปิเอโร กาสเปรินี่ โดยเฉพาะการเล่นเกมรับที่แข็งแกร่งในครึ่งแรก

ชัยชนะครั้งนี้ถือเป็นการเริ่มต้นฤดูกาลที่ยอดเยี่ยมสำหรับ เรอัล มาดริด และเป็นสัญญาณที่ดีสำหรับการลุ้นแชมป์ในรายการอื่นๆ ที่กำลังจะมาถึงในฤดูกาลนี้