มาร์ติน ซูบีเมนดี้ กองกลางทีมชาติสเปนวัย 25 ปี จาก เรอัล โซเซียดาด ได้ออกมาเปิดเผยถึงสาเหตุที่ตัดสินใจปฏิเสธการย้ายไปร่วมทีม ลิเวอร์พูล สโมสรยักษ์ใหญ่แห่งศึกพรีเมียร์ลีก อังกฤษ ในช่วงตลาดซื้อขายนักเตะซัมเมอร์ที่ผ่านมา หลังจากที่ดีลดังกล่าวเกือบจะลุล่วงไปด้วยดี
ซูบีเมนดี้ เผยว่า “การย้ายไปร่วมทีม ลิเวอร์พูล เกือบจะเรียบร้อยแล้ว เพราะมันเป็นความฝันของผม แต่สุดท้าย ภรรยาและลูกของผมก็ยังไม่พร้อมที่จะออกไปใช้ชีวิตนอกประเทศสเปน ซึ่งผมเคารพการตัดสินใจของครอบครัว” คำพูดนี้สะท้อนให้เห็นถึงความสำคัญของครอบครัวที่มีต่อการตัดสินใจของนักเตะรายนี้
ทั้งนี้ “หงส์แดง” ได้ตกลงที่จะจ่ายค่าฉีกสัญญามูลค่าสูงถึง 52 ล้านปอนด์ให้กับ เรอัล โซเซียดาด พร้อมทั้งยังเสนอค่าเหนื่อยให้กับดาวเตะชาวสเปนเป็นสองเท่าจากที่เคยได้รับจากต้นสังกัดปัจจุบัน แสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นของลิเวอร์พูลที่ต้องการคว้าตัวนักเตะรายนี้มาร่วมทีม
เบื้องลึกของดีลที่ล่ม: มุมมองจากนักข่าวท้องถิ่น
อันโดนี อ็อตโซโตเรนา นักข่าวชาวสเปนที่มีความใกล้ชิดกับ เรอัล โซเซียดาด ได้เปิดเผยข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับดีลนี้ว่า “ดีลมันเกือบจะเกิดขึ้นแล้ว ผมคิดว่าเขาจะย้ายไปลิเวอร์พูล แต่ประธานสโมสรโซเซียดาดก็ดำเนินแผนการของเขาด้วยสัญญาที่สูงขึ้นเช่นกัน แม้จะเทียบไม่ได้กับที่ลิเวอร์พูลเสนอ แต่สำหรับสโมสรแห่งนี้มันเป็นข้อเสนอที่สูงมาก นั่นทำให้เขาลังเลในการตัดสินใจ”
อ็อตโซโตเรนายังเสริมอีกว่า “นอกจากเรื่องครอบครัวแล้ว อีกปัจจัยหนึ่งก็คือเรื่องของวัฒนธรรม เหมือนกับที่วัฒนธรรมบาสก์มีต่อแอตเลติโก บิลเบา ความภักดีเป็นเรื่องที่ไม่อาจปฏิเสธได้” คำพูดนี้สะท้อนให้เห็นถึงความสำคัญของวัฒนธรรมท้องถิ่นและความผูกพันที่นักเตะมีต่อสโมสรและภูมิภาคของตน
สำหรับ มาร์ติน ซูบีเมนดี้ ถือเป็นเป้าหมายแรกของ อาร์เน่ สล็อต กุนซือคนใหม่ของลิเวอร์พูล ในการเสริมความแข็งแกร่งให้กับแดนกลางของทีม แต่สุดท้ายดีลนี้ก็ไม่เกิดขึ้น ซึ่งก่อนหน้านี้ ดาวเตะสเปนรายนี้ก็เคยปฏิเสธข้อเสนอจากทีมใหญ่อย่าง อาร์เซนอล และบาเยิร์น มิวนิค มาแล้วเช่นกัน
การตัดสินใจครั้งนี้ของซูบีเมนดี้ไม่เพียงแต่ส่งผลกระทบต่อแผนการเสริมทัพของลิเวอร์พูลเท่านั้น แต่ยังแสดงให้เห็นถึงความสำคัญของปัจจัยนอกเหนือจากเงินในวงการฟุตบอลอาชีพ ทั้งเรื่องครอบครัว วัฒนธรรม และความภักดีต่อสโมสร ซึ่งล้วนมีบทบาทสำคัญในการตัดสินใจของนักเตะระดับแนวหน้า