ในวันที่ผ่านมา เหตุการณ์ที่สร้างความฮือฮาในแวดวงสื่อมวลชนและสังคมออนไลน์ได้เกิดขึ้น เมื่อพลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ ประธานคณะกรรมการโอลิมปิกแห่งประเทศไทยในพระบรมราชูปถัมภ์ และหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ แสดงอาการไม่พอใจอย่างชัดเจนต่อคำถามของสื่อมวลชน หลังเสร็จสิ้นงานเลี้ยงต้อนรับนักกีฬาและคณะผู้เข้าร่วมการแข่งขันกีฬาโอลิมปิกเกมส์ ครั้งที่ 33
เหตุการณ์เริ่มต้นขึ้นเมื่อพลเอกประวิตรให้สัมภาษณ์กับผู้สื่อข่าวภายหลังจบงานเลี้ยง โดยเมื่อถูกถามเกี่ยวกับการติดตามผลการโหวตเลือกนายกรัฐมนตรีในวันนั้น พลเอกประวิตรกลับเลือกที่จะไม่ตอบคำถามโดยตรง แต่กลับพูดว่า “ถามอะไรๆ ถามอะไรก็ไม่ได้ยิน” ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงความไม่สบายใจของท่านต่อคำถามดังกล่าว
จุดที่สถานการณ์ทวีความตึงเครียดขึ้นคือ เมื่อพลเอกประวิตรแสดงอาการทนไม่ไหวต่อการซักถาม ถึงขั้นเงื้อมือและตบไปที่ศีรษะของนักข่าวหญิงจากสำนักข่าวแห่งหนึ่ง ซึ่งการกระทำดังกล่าวได้สร้างความตกใจให้กับผู้ที่อยู่ในเหตุการณ์และผู้ที่ได้รับชมคลิปวิดีโอในภายหลัง
ความขัดแย้งระหว่างนักการเมืองและสื่อมวลชน – ดาบสองคม?
เหตุการณ์ครั้งนี้ได้จุดประเด็นให้เกิดการถกเถียงในสังคมเกี่ยวกับความสัมพันธ์ระหว่างนักการเมืองและสื่อมวลชน โดยหลายฝ่ายมองว่า แม้สื่อมวลชนจะมีหน้าที่ในการนำเสนอข้อมูลข่าวสารที่เป็นประโยชน์ต่อสาธารณะ แต่ก็ควรคำนึงถึงจรรยาบรรณและความเหมาะสมของเวลาและสถานที่ในการซักถามด้วย ในขณะเดียวกัน นักการเมืองในฐานะบุคคลสาธารณะก็ควรมีความอดทนและรู้จักควบคุมอารมณ์เมื่อต้องเผชิญกับคำถามที่อาจสร้างความไม่สบายใจ
หลังจากเหตุการณ์ดังกล่าว เมื่อพลเอกประวิตรขึ้นรถเพื่อเดินทางออกจากงาน ท่านได้เปิดกระจกและหันมาถามผู้สื่อข่าวอีกครั้งว่า “ถามอะไรๆ” ซึ่งเมื่อผู้สื่อข่าวถามย้ำเกี่ยวกับประเด็นนางสาวแพทองธาร ชินวัตร ในฐานะนายกรัฐมนตรี พลเอกประวิตรก็ได้แสดงอาการไม่พอใจอย่างชัดเจนด้วยการร้อง “หู้ยยยย” เสียงดัง ก่อนที่รถจะเคลื่อนออกไปอย่างรวดเร็ว
เหตุการณ์ครั้งนี้ได้สร้างความสนใจและเป็นประเด็นถกเถียงในสังคมวงกว้าง โดยหลายฝ่ายเรียกร้องให้มีการพิจารณาถึงความเหมาะสมในการปฏิบัติหน้าที่ทั้งของนักการเมืองและสื่อมวลชน เพื่อรักษาไว้ซึ่งบรรยากาศที่ดีในการสื่อสารระหว่างผู้นำทางการเมืองและประชาชนผ่านสื่อมวลชน