นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ได้เปิดเผยผ่านแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดีย X (อดีต Twitter) ถึงความคืบหน้าในการประชุมหารือร่วมกับ น.ส. สุดาวรรณ หวังศุภกิจโกศล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เกี่ยวกับแนวทางการส่งเสริมการท่องเที่ยวของประเทศไทย โดยมีประเด็นสำคัญคือการขยายนโยบายยกเว้นวีซ่า (Visa Free) ให้กับนักท่องเที่ยวจากหลากหลายประเทศเพิ่มเติม
นายกรัฐมนตรีได้มอบหมายให้ รมว.ท่องเที่ยวฯ ประสานงานกับกระทรวงการต่างประเทศ เพื่อหารือถึงความเป็นไปได้ในการขยายนโยบาย Visa Free ให้ครอบคลุมนักท่องเที่ยวจากประเทศอื่นๆ เพิ่มเติม โดยใช้ความสำเร็จจากการดำเนินนโยบายดังกล่าวกับนักท่องเที่ยวชาวจีนเป็นต้นแบบ ทั้งนี้ มีหลายประเทศที่แสดงความสนใจในนโยบายนี้ ซึ่งคาดว่าจะช่วยอำนวยความสะดวกและกระตุ้นการเดินทางมาท่องเที่ยวในประเทศไทยได้มากขึ้น
นโยบายวีซ่าร่วมในภูมิภาค: ก้าวสู่การเป็นศูนย์กลางการท่องเที่ยว
นอกจากนี้ รมว.ท่องเที่ยวฯ ยังได้รายงานถึงความคืบหน้าของนโยบายการใช้วีซ่าร่วมกันระหว่างประเทศไทยกับกลุ่มประเทศ CLMV (กัมพูชา ลาว เมียนมา และเวียดนาม) รวมถึงมาเลเซีย โดยมีเป้าหมายให้ประเทศไทยก้าวขึ้นเป็นศูนย์กลางการท่องเที่ยวในภูมิภาค นโยบายนี้จะช่วยให้นักท่องเที่ยวที่มีวีซ่าของประเทศใดประเทศหนึ่งในกลุ่ม สามารถเดินทางท่องเที่ยวในประเทศไทยได้โดยไม่ต้องขอวีซ่าเพิ่มเติม
ตัวอย่างเช่น หากนักท่องเที่ยวมีวีซ่าของประเทศกัมพูชาและเดินทางมาถึงประเทศไทยก่อน พวกเขาสามารถท่องเที่ยวในประเทศไทยได้ทันทีโดยใช้วีซ่าเดิมที่มีอยู่ ซึ่งแนวคิดนี้มีลักษณะคล้ายคลึงกับระบบเชงเก้นวีซ่าของสหภาพยุโรป ที่อนุญาตให้ผู้ถือวีซ่าสามารถเดินทางท่องเที่ยวได้หลายประเทศในยุโรปโดยใช้วีซ่าเดียว
การดำเนินการตามนโยบายนี้คาดว่าจะช่วยเพิ่มความสะดวกสบายให้กับนักท่องเที่ยว ส่งเสริมการเชื่อมโยงการท่องเที่ยวในภูมิภาค และเสริมสร้างบทบาทของประเทศไทยในฐานะจุดหมายปลายทางหลักสำหรับนักท่องเที่ยวที่ต้องการสำรวจภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ทั้งนี้ รัฐบาลยังคงติดตามและประเมินผลการดำเนินนโยบายอย่างใกล้ชิด เพื่อปรับปรุงและพัฒนาให้เกิดประโยชน์สูงสุดต่อภาคการท่องเที่ยวและเศรษฐกิจของประเทศไทยต่อไป