หลังจากใช้มาตรการควบคุมการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 อย่างเข้มงวดมาเป็นเวลากว่า 3 ปี ประเทศจีนได้ประกาศเตรียมความพร้อมในการเปิดรับนักเดินทางจากต่างประเทศอย่างเต็มรูปแบบอีกครั้ง โดยจะเริ่มตั้งแต่วันพุธที่ 15 มีนาคม 2566 เป็นต้นไป การตัดสินใจครั้งนี้ถือเป็นก้าวสำคัญในการฟื้นฟูความสัมพันธ์ระหว่างประเทศและกระตุ้นเศรษฐกิจของจีนหลังจากที่ได้รับผลกระทบอย่างหนักจากการแพร่ระบาดของไวรัส
สถานทูตจีนประจำสหรัฐอเมริกาได้เผยแพร่แถลงการณ์ผ่านเว็บไซต์อย่างเป็นทางการเมื่อวันจันทร์ที่ 13 มีนาคม 2566 โดยระบุว่า ทางการจีนจะกลับมาออกวีซ่าทุกประเภทสำหรับชาวต่างชาติอีกครั้ง ซึ่งรวมถึงวีซ่าท่องเที่ยว วีซ่าธุรกิจ และวีซ่าการศึกษา นอกจากนี้ นักเดินทางที่ถือวีซ่าระยะยาวที่ออกก่อนวันที่ 28 มีนาคม 2563 ซึ่งเป็นวันที่จีนเริ่มปิดพรมแดน จะสามารถใช้วีซ่านั้นต่อไปได้ตราบเท่าที่ยังไม่หมดอายุ
การผ่อนคลายมาตรการด้านการท่องเที่ยว
นอกเหนือจากการกลับมาออกวีซ่าตามปกติแล้ว ทางการจีนยังได้ประกาศผ่อนคลายมาตรการด้านการท่องเที่ยวในหลายพื้นที่ ดังนี้:
1. การเดินทางเข้าเกาะไหหลำและการล่องเรือสำราญเยือนนครเซี่ยงไฮ้จะกลับมาเป็นแบบไม่ต้องใช้วีซ่าอีกครั้ง
2. การเดินทางจากฮ่องกงหรือมาเก๊าไปยังมณฑลกวางตุ้งจะได้รับการอำนวยความสะดวกมากขึ้น
3. กรุ๊ปทัวร์จากประเทศสมาชิกอาเซียนจะสามารถเดินทางเยือนมณฑลกุ้ยหลินและกวางซีได้โดยไม่ต้องขอวีซ่า
อย่างไรก็ตาม แม้ว่าจะมีการผ่อนคลายมาตรการหลายประการ แต่ทางการจีนยังคงให้ความสำคัญกับการป้องกันการแพร่ระบาดของโรค โดยนักเดินทางที่จะเข้าประเทศจีนยังคงต้องปฏิบัติตามมาตรการด้านสาธารณสุข ซึ่งรวมถึงการตรวจหาเชื้อโควิด-19 ก่อนการเดินทางภายในระยะเวลา 48 ชั่วโมง และกรอกผลการตรวจลงในแบบแสดงข้อมูลเพื่อคัดกรองโรคก่อนเดินทางเข้าประเทศ
การตัดสินใจเปิดประเทศของจีนครั้งนี้เกิดขึ้นหลังจากที่รัฐบาลจีนได้ประกาศชัยชนะครั้งใหญ่และเด็ดขาดในการรับมือกับการระบาดของไวรัสโควิด-19 เมื่อเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา ซึ่งเป็นผลมาจากการผ่อนคลายนโยบาย “ซีโร่โควิด” ที่เคยใช้มาอย่างเข้มงวดเมื่อปลายปี 2565 การเปิดประเทศครั้งนี้ยังสอดคล้องกับความพยายามของรัฐบาลปักกิ่งในการฟื้นฟูเศรษฐกิจและอุตสาหกรรมท่องเที่ยวภายในประเทศ หลังจากที่เศรษฐกิจจีนชะลอตัวลงอย่างมาก โดยมีอัตราการเติบโตเพียง 3% ในปี 2565 อันเป็นผลมาจากมาตรการควบคุมการระบาดที่เข้มงวด
การเปิดประเทศของจีนครั้งนี้ นอกจากจะเป็นโอกาสสำคัญสำหรับนักท่องเที่ยวและนักธุรกิจจากทั่วโลกที่จะได้กลับมาสัมผัสประสบการณ์และโอกาสทางธุรกิจในประเทศจีนอีกครั้งแล้ว ยังเป็นสัญญาณบ่งชี้ถึงความพยายามของจีนในการกลับสู่ภาวะปกติและการฟื้นฟูความสัมพันธ์ระหว่างประเทศหลังจากช่วงเวลาแห่งความท้าทายที่ผ่านมา
