สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง (สตม.) ได้เปิดตัวบริการใหม่ล่าสุดที่จะอำนวยความสะดวกให้แก่ชาวต่างชาติที่พำนักอยู่ในประเทศไทย โดยเฉพาะนักลงทุนและนักท่องเที่ยวระยะยาว ภายใต้ชื่อ “90 days online notification” ซึ่งเป็นระบบการแจ้งที่พักอาศัยออนไลน์สำหรับชาวต่างชาติที่อยู่ในราชอาณาจักรเกินกว่า 90 วัน
พลตำรวจโท อิทธิพล อิทธิสารรณชัย ผู้บัญชาการสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง (ผบช.สตม.) ได้เป็นประธานในพิธีเปิดตัวบริการดังกล่าวเมื่อวันที่ 22 มกราคม 2567 โดยมีตัวแทนจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าร่วมด้วย ทั้งนี้ ผบช.สตม. ได้กล่าวถึงที่มาของโครงการว่าเป็นไปตามนโยบายของนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ที่ต้องการกระตุ้นเศรษฐกิจและส่งเสริมการท่องเที่ยว โดยดึงดูดนักท่องเที่ยวและนักลงทุนจำนวนมากเข้ามาในประเทศ
ระบบใหม่นี้จะช่วยลดขั้นตอนและระยะเวลาในการดำเนินการแจ้งที่พักอาศัย โดยในระยะแรกจะเริ่มให้บริการกับกลุ่มนักลงทุนที่อยู่ภายใต้การส่งเสริมของคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (BOI) ก่อน จากนั้นจึงจะขยายไปสู่วีซ่าประเภทอื่นๆ ต่อไป
วิธีการใช้งานระบบ “90 days online notification”
ชาวต่างชาติสามารถใช้บริการนี้ได้ผ่านทางเว็บไซต์ www.immigration.go.th โดยมีขั้นตอนดังนี้:
1. ลงทะเบียนบนเว็บไซต์และกรอกอีเมล
2. รับรหัสผ่านจากระบบและเข้าสู่ระบบ
3. กรอกข้อมูลส่วนบุคคล
4. ดำเนินการแจ้ง 90 วัน
5. รอรับผลการอนุมัติผ่านทางอีเมลหรือเว็บไซต์
ข้อดีของระบบใหม่
– สามารถแจ้งล่วงหน้าได้ 15 วันก่อนถึงวันครบกำหนด
– ใช้งานได้ทุกที่ทุกเวลาผ่านอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ต่างๆ
– ลดความจำเป็นในการเดินทางมาติดต่อด้วยตนเอง
บริการเสริมอื่นๆ สำหรับชาวต่างชาติ
นอกจากระบบแจ้งที่พักอาศัยออนไลน์แล้ว สำนักงานตรวจคนเข้าเมืองยังมีบริการ e-Extension สำหรับการยื่นขอวีซ่าผ่านระบบออนไลน์ ซึ่งช่วยให้ชาวต่างชาติสามารถกรอกข้อมูลได้ด้วยตนเองตลอดเวลา และใช้เวลาเพียง 5 นาทีในการยืนยันตัวตนและรับสติกเกอร์วีซ่าจากเจ้าหน้าที่
ผู้สนใจสามารถติดตามข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับบริการต่างๆ ของสำนักงานตรวจคนเข้าเมืองได้ที่เว็บไซต์ www.immigration.go.th
การพัฒนาระบบดิจิทัลเพื่อรองรับนักลงทุนและนักท่องเที่ยว
การเปิดตัวระบบ “90 days online notification” นับเป็นก้าวสำคัญในการพัฒนาระบบดิจิทัลของประเทศไทยเพื่อรองรับนักลงทุนและนักท่องเที่ยวต่างชาติ โดยมีเป้าหมายในการเพิ่มประสิทธิภาพการให้บริการและสร้างความประทับใจแก่ผู้มาเยือน ซึ่งสอดคล้องกับนโยบายของรัฐบาลในการส่งเสริมการท่องเที่ยวและการลงทุนจากต่างประเทศ
การพัฒนาระบบนี้ไม่เพียงแต่จะช่วยอำนวยความสะดวกให้แก่ชาวต่างชาติเท่านั้น แต่ยังช่วยลดภาระงานของเจ้าหน้าที่ และเพิ่มประสิทธิภาพในการจัดการข้อมูลของสำนักงานตรวจคนเข้าเมืองอีกด้วย ซึ่งจะส่งผลดีต่อภาพลักษณ์ของประเทศไทยในฐานะจุดหมายปลายทางที่เป็นมิตรกับนักลงทุนและนักท่องเที่ยวต่างชาติ