รัฐบาลญี่ปุ่นกำลังพิจารณายกเลิกข้อบังคับเกี่ยวกับวีซ่าสำหรับนักท่องเที่ยวต่างชาติ เพื่อฟื้นฟูอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวที่ได้รับผลกระทบอย่างหนักจากการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ตามรายงานของสถานีโทรทัศน์ฟูจินิวส์ เน็ตเวิร์ก (เอฟเอ็นเอ็น) ซึ่งเป็นสื่อชั้นนำของประเทศญี่ปุ่น
การตัดสินใจครั้งสำคัญนี้อาจเกิดขึ้นภายในสัปดาห์นี้ โดยนายกรัฐมนตรีฟูมิโอะ คิชิดะ ซึ่งหากมีการประกาศอย่างเป็นทางการ จะเป็นการเปิดประตูต้อนรับนักท่องเที่ยวจากทั่วโลกให้สามารถเดินทางเข้าประเทศญี่ปุ่นได้อย่างอิสระ โดยไม่จำเป็นต้องจองผ่านบริษัทนำเที่ยวอีกต่อไป นับเป็นการยกเลิกข้อจำกัดที่เคยบังคับใช้ตั้งแต่ช่วงเริ่มต้นของการระบาดใหญ่
ก่อนหน้านี้ ญี่ปุ่นได้ยกเว้นวีซ่าให้กับนักท่องเที่ยวจาก 68 ประเทศและภูมิภาค รวมถึงประเทศไทย แต่ได้กลับมาใช้ข้อกำหนดการขอวีซ่าอีกครั้งเมื่อเกิดการระบาดของโควิด-19 การพิจารณายกเลิกข้อบังคับนี้จึงถือเป็นก้าวสำคัญในการกลับสู่นโยบายการท่องเที่ยวแบบเปิดกว้างอีกครั้ง
นายเซจิ คิฮาระ รองผู้อำนวยการสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี ได้ให้ความเห็นว่า การอ่อนค่าของเงินเยนเป็นปัจจัยสำคัญที่สุดในการดึงดูดนักท่องเที่ยวต่างชาติ โดยเฉพาะอย่างยิ่งหลังจากที่ค่าเงินเยนได้อ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งลดลงต่ำสุดในรอบ 24 ปีเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา อย่างไรก็ตาม เขายังเน้นย้ำว่าจำเป็นต้องมีมาตรการเสริมอื่นๆ เพื่อสนับสนุนการฟื้นตัวของภาคการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน
มาตรการผ่อนคลายเพิ่มเติมเพื่อกระตุ้นการท่องเที่ยว
นอกจากการพิจารณายกเลิกข้อบังคับวีซ่า รัฐบาลญี่ปุ่นยังได้ดำเนินมาตรการผ่อนคลายอื่นๆ เพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยว โดยล่าสุดได้เพิ่มโควต้าผู้เดินทางเข้าประเทศรายวันจาก 20,000 คน เป็น 50,000 คน และมีแผนที่จะยกเลิกการจำกัดจำนวนนักท่องเที่ยวเข้าประเทศภายในเดือนตุลาคมนี้ ตามรายงานของหนังสือพิมพ์นิกเกอิ
ที่สำคัญ ตั้งแต่วันที่ 7 กันยายนที่ผ่านมา ญี่ปุ่นได้ยกเลิกข้อกำหนดการตรวจหาเชื้อโควิด-19 ก่อนการเดินทางสำหรับผู้ที่ได้รับวัคซีนครบ 3 เข็ม ซึ่งเป็นอีกหนึ่งขั้นตอนสำคัญในการอำนวยความสะดวกให้กับนักท่องเที่ยวและนักธุรกิจที่ต้องการเดินทางเข้าประเทศ
การดำเนินการเหล่านี้สะท้อนให้เห็นถึงความพยายามของรัฐบาลญี่ปุ่นในการสร้างสมดุลระหว่างการควบคุมการแพร่ระบาดของโรคและการฟื้นฟูเศรษฐกิจ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในภาคการท่องเที่ยวซึ่งเป็นหนึ่งในแรงขับเคลื่อนสำคัญของเศรษฐกิจญี่ปุ่น การยกเลิกข้อจำกัดต่างๆ นี้คาดว่าจะช่วยดึงดูดนักท่องเที่ยวต่างชาติให้กลับมาเยือนญี่ปุ่นอีกครั้ง ซึ่งจะส่งผลดีต่อการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจของประเทศในระยะยาว