วันที่ 25 กันยายน 2566 เป็นวันแรกของการใช้มาตรการยกเว้นการตรวจลงตรา (VISA Exemption) สำหรับนักท่องเที่ยวจากประเทศจีนและคาซัคสถาน ซึ่งเป็นผลมาจากมติคณะรัฐมนตรี (ครม.) เมื่อวันที่ 13 กันยายน 2566 โดยมาตรการนี้จะมีผลบังคับใช้เป็นระยะเวลาประมาณ 5 เดือน ตั้งแต่วันที่ 25 กันยายน 2566 ถึงวันที่ 29 กุมภาพันธ์ 2567
บรรยากาศการต้อนรับนักท่องเที่ยว
กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ร่วมกับการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ได้จัดพิธีต้อนรับนักท่องเที่ยวจากสาธารณรัฐประชาชนจีนและสาธารณรัฐคาซัคสถานอย่างยิ่งใหญ่ ณ ท่าอากาศยานสำคัญ 4 แห่งทั่วประเทศ ได้แก่ ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ท่าอากาศยานดอนเมือง ท่าอากาศยานเชียงใหม่ และท่าอากาศยานภูเก็ต โดยมีนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เป็นประธานในพิธีต้อนรับ ณ ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ
ที่ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ เที่ยวบินแรกที่นำนักท่องเที่ยวจีนมาถึงคือสายการบินแอร์เอเชียเอ็กซ์ เที่ยวบินที่ XJ 761 จากเซี่ยงไฮ้ มีผู้โดยสารทั้งหมด 341 คน โดยเป็นนักท่องเที่ยวชาวจีน 306 คน และนักท่องเที่ยวจากประเทศอื่นๆ อีก 35 คน ส่วนท่าอากาศยานอื่นๆ ก็มีเที่ยวบินจากหลายเมืองในประเทศจีนและคาซัคสถานทยอยเดินทางมาถึงตลอดทั้งวัน
ผลกระทบทางเศรษฐกิจที่คาดการณ์
การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทยคาดการณ์ว่า มาตรการยกเว้นการตรวจลงตราจะช่วยกระตุ้นตลาดนักท่องเที่ยวจีนให้เดินทางเข้าประเทศไทยประมาณ 4.01 – 4.4 ล้านคนในปี 2566 สร้างรายได้ราว 257,500 ล้านบาท ในช่วง 5 เดือนของมาตรการนี้ คาดว่าจะมีนักท่องเที่ยวจีนเดินทางเข้าประเทศประมาณ 2,888,500 คน สร้างรายได้ 140,313 ล้านบาท คิดเป็นอัตราการฟื้นตัว 62% เมื่อเทียบกับปี 2562
สำหรับนักท่องเที่ยวจากคาซัคสถาน คาดว่าจะมีจำนวนประมาณ 150,000 คนในปี 2566 โดยในช่วง 5 เดือนของมาตรการ จะมีนักท่องเที่ยวคาซัคสถานประมาณ 129,485 คน เพิ่มขึ้น 49.7% เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีที่ผ่านมา สร้างรายได้ประมาณ 7,930 ล้านบาท
ความคาดหวังและแผนการส่งเสริมการท่องเที่ยว
รัฐบาลมีความเชื่อมั่นว่า มาตรการนี้จะเป็นกลไกสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทยและฟื้นฟูอุตสาหกรรมท่องเที่ยว โดยช่วยลดข้อจำกัดในการเดินทางของนักท่องเที่ยวชาวจีน ทั้งในแง่ของระยะเวลาและค่าใช้จ่าย ส่งผลให้การตัดสินใจเดินทางมาท่องเที่ยวประเทศไทยเป็นไปได้ง่ายขึ้น โดยเฉพาะในกลุ่มครอบครัว กลุ่มทัวร์ และกลุ่ม Incentive
นอกจากนี้ ช่วงเวลาของมาตรการยังครอบคลุมเทศกาลสำคัญอย่าง Golden Week และเทศกาลวันหยุดปีใหม่ ซึ่งเป็นช่วงที่นักท่องเที่ยวชาวจีนนิยมเดินทางท่องเที่ยว ทำให้มีโอกาสบรรลุเป้าหมายการท่องเที่ยวในปี 2566 ที่ตั้งไว้ที่ 25-30 ล้านคน และสร้างรายได้จากตลาดต่างประเทศให้กลับมาในอัตรา 80% ของปี 2562 ที่ 1.5 ล้านล้านบาท
แผนการส่งเสริมการท่องเที่ยวในเมืองรอง
นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ได้เน้นย้ำถึงความสำคัญของการส่งเสริมการท่องเที่ยวในเมืองรอง นอกเหนือจากเมืองท่องเที่ยวหลักอย่างกรุงเทพฯ พัทยา และภูเก็ต โดยมีเป้าหมายให้นักท่องเที่ยวใช้เวลาในประเทศไทยนานขึ้นและกระตุ้นการใช้จ่ายให้มากขึ้น นอกจากนี้ ยังเน้นย้ำถึงความสำคัญของความปลอดภัยของนักท่องเที่ยวตลอดการเดินทาง และการปรับปรุงกระบวนการเข้าประเทศให้มีความรวดเร็วและมีประสิทธิภาพมากขึ้น
ด้วยมาตรการนี้และแผนการส่งเสริมการท่องเที่ยวที่ครอบคลุม รัฐบาลหวังว่าจะสามารถฟื้นฟูอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวของไทยและกระตุ้นเศรษฐกิจได้อย่างมีประสิทธิภาพในช่วงครึ่งปีหลังของปี 2566 และต้นปี 2567