หญิงชาวแคเมอรูนหลงรักเมืองไทย พำนักเกินกำหนดวีซ่านานกว่า 3 ปี ถูกจับในงานเทศกาลกล้วยไข่

เจ้าหน้าที่ตำรวจท่องเที่ยวจังหวัดกำแพงเพชรได้จับกุมหญิงชาวแคเมอรูนวัย 29 ปี ที่พำนักอยู่ในประเทศไทยเกินกำหนดวีซ่าถึง 1,430 วัน หรือเกือบ 4 ปี ในระหว่างการออกตรวจตามนโยบาย X-Ray Outlaw Foreigner ณ งานประเพณีสารทไทยกล้วยไข่เมืองกำแพงเพชร

เหตุการณ์เกิดขึ้นเมื่อคืนวันที่ 5 ตุลาคม 2561 เวลาประมาณเที่ยงคืน เมื่อเจ้าหน้าที่ตำรวจท่องเที่ยวนำโดย พ.ต.ท.ต่อลาภ ตินะมาตร สว.ทท.3 กก.3 บก.ทท.2 (ตาก) ได้ออกปฏิบัติหน้าที่ตามนโยบายของ พล.ต.ต.สุรเชษฐ์ หักพาล รรท.ผบช.สตม. และพล.ต.ต.ธีรพล คุปตานนท์ รรท.ผบช.ทท. เพื่อกวดขันและบังคับใช้กฎหมายกับชาวต่างชาติที่กระทำผิดกฎหมายในประเทศไทย

ขณะปฏิบัติหน้าที่ในงานเทศกาล เจ้าหน้าที่สังเกตเห็นหญิงชาวต่างชาติที่มีพฤติกรรมน่าสงสัย จึงเข้าไปสอบถามและขอตรวจสอบเอกสาร แต่หญิงดังกล่าวอ้างว่าไม่ได้พกหนังสือเดินทางมาด้วย เจ้าหน้าที่จึงพาไปตรวจสอบที่บ้านพักของเธอ ซึ่งตั้งอยู่ใกล้กับสถานีขนส่งผู้โดยสารจังหวัดกำแพงเพชร

ผลการตรวจสอบพบว่า หญิงคนดังกล่าวชื่อ Mrs.Jacinta Ngefor อายุ 29 ปี สัญชาติแคเมอรูน ถือหนังสือเดินทางเลขที่ 0089273 โดยวีซ่าของเธอหมดอายุตั้งแต่วันที่ 4 พฤศจิกายน 2557 ซึ่งนับถึงวันที่ถูกจับกุมเป็นเวลา 1,430 วัน หรือประมาณ 3 ปี 11 เดือน

วิธีการอยู่รอดในเมืองไทยของสาวแคเมอรูน

จากการสอบสวนเบื้องต้น Mrs.Jacinta Ngefor ให้การรับสารภาพว่า เธอเดินทางมาท่องเที่ยวในประเทศไทยและหลงรักในวัฒนธรรมและความเป็นอยู่ของคนไทย จึงตัดสินใจอยู่ต่อโดยใช้วุฒิการศึกษาจากประเทศของตนสมัครเป็นครูสอนภาษาตามสถาบันการศึกษาต่างๆ เธอย้ายที่ทำงานและที่พักอาศัยไปเรื่อยๆ เพื่อหลีกเลี่ยงการถูกตรวจสอบ จนกระทั่งวีซ่าหมดอายุและอยู่เกินกำหนดมาเป็นเวลานาน

เจ้าหน้าที่ตำรวจแสดงความประหลาดใจที่ Mrs.Jacinta Ngefor สามารถอยู่ในประเทศไทยได้ยาวนานถึง 1,430 วันโดยไม่ถูกจับกุม ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงความจำเป็นในการเพิ่มความเข้มงวดในการตรวจสอบชาวต่างชาติที่พำนักอยู่ในประเทศไทย

หลังจากการจับกุม เจ้าหน้าที่ได้นำตัว Mrs.Jacinta Ngefor ส่งให้ พ.ต.ท.นิกรณ์ ใบเนียม สว.สอบสวน สภ.เมืองกำแพงเพชร เพื่อดำเนินคดีในข้อหา “เป็นบุคคลต่างด้าวอยู่ในราชอาณาจักรโดยการอนุญาตสิ้นสุด” ตามกฎหมายคนเข้าเมือง ซึ่งอาจส่งผลให้เธอถูกปรับและถูกส่งกลับประเทศต้นทางในที่สุด

กรณีนี้เป็นตัวอย่างที่แสดงให้เห็นถึงความสำคัญของการบังคับใช้กฎหมายคนเข้าเมืองอย่างเคร่งครัด และการตรวจสอบชาวต่างชาติที่พำนักอยู่ในประเทศไทยอย่างสม่ำเสมอ เพื่อป้องกันการกระทำผิดกฎหมายและรักษาความมั่นคงของประเทศ