กระทรวงแรงงานได้ประกาศมาตรการใหม่เพื่อจัดการกับแรงงานต่างด้าวในประเทศไทย โดยเฉพาะกลุ่มแรงงานจาก 3 ประเทศเพื่อนบ้าน ได้แก่ เมียนมา ลาว และกัมพูชา ซึ่งมีจำนวนรวมกันมากกว่า 2 ล้านคน นายอนุรักษ์ ทศรัตน์ อธิบดีกรมการจัดหางาน ได้เปิดเผยรายละเอียดของมาตรการดังกล่าวหลังจากที่ได้รับความเห็นชอบจากคณะรัฐมนตรี (ครม.)
ตามข้อมูลล่าสุด มีแรงงานต่างด้าวที่ได้ดำเนินการพิสูจน์สัญชาติแล้วเสร็จจำนวน 1,187,411 คน อย่างไรก็ตาม ยังมีแรงงานอีกจำนวน 811,829 คนที่ยังไม่สามารถดำเนินการให้แล้วเสร็จได้ทันตามกำหนดเดิมคือวันที่ 31 ธันวาคม 2560 สาเหตุหลักมาจากปัญหาด้านขั้นตอน วิธีการ และอุปกรณ์ในการดำเนินการของประเทศต้นทาง
ด้วยเหตุนี้ กระทรวงแรงงานจึงได้เสนอให้ใช้อำนาจตามมาตรา 17 ของพระราชบัญญัติคนเข้าเมือง เพื่อขยายระยะเวลาให้แรงงานต่างด้าวสามารถอยู่ในประเทศไทยเพื่อดำเนินการพิสูจน์สัญชาติให้แล้วเสร็จภายในวันที่ 30 มิถุนายน 2561
มาตรการเพิ่มเติมสำหรับแรงงานต่างด้าว
นอกจากการขยายเวลาดังกล่าว ทางการไทยยังได้กำหนดมาตรการเพิ่มเติมเพื่อควบคุมและจัดระเบียบแรงงานต่างด้าว ดังนี้:
1. แรงงานที่ยังไม่มีทะเบียนประวัติหรือเลขประจำตัว 13 หลัก จะต้องไปดำเนินการจัดทำทะเบียนประวัติกับกรมการปกครอง
2. แรงงานที่มีบัตรสีชมพูและมีทะเบียนประวัติอยู่แล้ว จะต้องไปรายงานตัวเพื่อปรับปรุงข้อมูลให้เป็นปัจจุบัน
3. หลังจากพิสูจน์สัญชาติเรียบร้อยแล้ว แรงงานจะได้รับเอกสารสำคัญ โดยทางการไทยจะออกวีซ่าและใบอนุญาตทำงานให้ ซึ่งจะมีอายุถึงวันที่ 31 มีนาคม 2563
มาตรการเหล่านี้มีจุดประสงค์เพื่อแก้ปัญหาการขาดแคลนแรงงานในประเทศไทย และในขณะเดียวกันก็เพื่อให้มั่นใจว่าแรงงานต่างด้าวทุกคนได้รับการจดทะเบียนอย่างถูกต้องตามกฎหมาย ซึ่งจะช่วยให้รัฐบาลสามารถบริหารจัดการแรงงานต่างด้าวได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น และยังเป็นการคุ้มครองสิทธิของแรงงานเหล่านี้อีกด้วย
การดำเนินการตามมาตรการใหม่นี้คาดว่าจะช่วยลดปัญหาแรงงานผิดกฎหมายและส่งเสริมความมั่นคงทางเศรษฐกิจของประเทศในระยะยาว