วันที่ 31 มกราคม 2567 เป็นวันสำคัญสำหรับชาวฮ่องกงจำนวนมาก เมื่อรัฐบาลสหราชอาณาจักรเริ่มเปิดรับการยื่นขอวีซ่าประเภทใหม่ที่จะเปิดโอกาสให้ชาวฮ่องกงได้รับสิทธิ์เป็นพลเมืองอังกฤษ นับเป็นการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญในนโยบายการเข้าเมืองของอังกฤษ ที่มีการคาดการณ์ว่าจะมีผู้ยื่นขอวีซ่าประเภทนี้มากถึง 300,000 คน
การตัดสินใจครั้งนี้ของรัฐบาลอังกฤษเกิดขึ้นหลังจากที่จีนได้ประกาศใช้กฎหมายความมั่นคงแห่งชาติในฮ่องกงเมื่อปี 2566 ซึ่งอังกฤษมองว่าเป็นการละเมิดข้อตกลงร่วมกันระหว่างจีนและอังกฤษในการส่งมอบฮ่องกงคืนให้จีนเมื่อปี 2530 ข้อตกลงดังกล่าวระบุว่าฮ่องกงจะต้องรักษาเสรีภาพและการปกครองตนเองเป็นเวลา 50 ปีภายใต้หลักการ “หนึ่งประเทศ สองระบบ”
ความเคลื่อนไหวทางการทูตระหว่างจีนและอังกฤษ
การประกาศของอังกฤษได้สร้างความไม่พอใจให้กับรัฐบาลจีนและฮ่องกงเป็นอย่างมาก ทั้งสองฝ่ายได้ตอบโต้ด้วยการประกาศว่าจะไม่ยอมรับหนังสือเดินทาง British National Overseas (BNO) ซึ่งเป็นเอกสารการเดินทางพิเศษที่อังกฤษมอบให้ชาวฮ่องกงตั้งแต่ปี 2530 อีกต่อไป โดยให้มีผลตั้งแต่วันที่ 31 มกราคม 2567 เป็นต้นไป การเคลื่อนไหวนี้สะท้อนให้เห็นถึงความตึงเครียดทางการทูตที่เพิ่มขึ้นระหว่างจีนและอังกฤษในประเด็นเกี่ยวกับฮ่องกง
รายละเอียดของโครงการวีซ่าใหม่
ภายใต้โครงการวีซ่าใหม่นี้ ผู้ถือหนังสือเดินทาง BNO และสมาชิกในครอบครัวของพวกเขาจะได้รับสิทธิพิเศษหลายประการ ได้แก่:
1. สามารถเดินทางเข้าประเทศอังกฤษเพื่ออยู่อาศัย
2. มีโอกาสในการศึกษาต่อในสถาบันการศึกษาของอังกฤษ
3. สามารถทำงานได้อย่างถูกกฎหมายในประเทศอังกฤษ
4. มีสิทธิ์ตั้งรกรากในอังกฤษเป็นเวลา 5 ปี
5. หลังจากนั้นอีก 12 เดือน สามารถยื่นขอสัญชาติเพื่อเป็นพลเมืองอังกฤษอย่างสมบูรณ์
แม้ว่ายังไม่มีตัวเลขที่แน่ชัดว่าจะมีชาวฮ่องกงกี่คนที่จะตัดสินใจรับข้อเสนอนี้ แต่จากข้อมูลทางสถิติพบว่าประมาณ 70% ของประชากรฮ่องกงทั้งหมด 7.5 ล้านคนถือครองหนังสือเดินทาง BNO ซึ่งหมายความว่ามีผู้มีสิทธิ์ยื่นขอวีซ่าประเภทนี้เป็นจำนวนมาก
ผลกระทบต่อสังคมและเศรษฐกิจฮ่องกง
การเปิดโอกาสให้ชาวฮ่องกงย้ายถิ่นฐานไปยังอังกฤษอาจส่งผลกระทบอย่างมีนัยสำคัญต่อสังคมและเศรษฐกิจของฮ่องกง โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากมีการอพยพของแรงงานที่มีทักษะและผู้เชี่ยวชาญในสาขาต่างๆ เป็นจำนวนมาก อย่างไรก็ตาม ยังคงต้องติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิดเพื่อประเมินผลกระทบในระยะยาวต่อไป
ท้ายที่สุด การเปิดรับสมัครวีซ่าประเภทใหม่นี้ไม่เพียงแต่เป็นการเปลี่ยนแปลงนโยบายการเข้าเมืองของอังกฤษเท่านั้น แต่ยังสะท้อนให้เห็นถึงความสัมพันธ์ระหว่างประเทศที่ซับซ้อนระหว่างอังกฤษ จีน และฮ่องกง ซึ่งอาจส่งผลต่อสถานการณ์ทางการเมืองและเศรษฐกิจในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกในอนาคตอันใกล้นี้