ความล่าช้าในการออกวีซ่าส่งผลกระทบต่อการท่องเที่ยวไทย: แอตต้าเรียกร้องให้เพิ่มบุคลากร

สมาคมไทยธุรกิจการท่องเที่ยว (แอตต้า) แสดงความกังวลอย่างยิ่งเกี่ยวกับปัญหาความล่าช้าในการออกวีซ่าให้แก่นักท่องเที่ยวต่างชาติที่สนามบินนานาชาติหลักของประเทศไทย โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงฤดูกาลท่องเที่ยว (ไฮซีซั่น) ที่มีนักท่องเที่ยวจำนวนมากเดินทางเข้าประเทศ ทำให้เกิดการรอคอยที่ยาวนานถึง 3-4 ชั่วโมง ซึ่งส่งผลกระทบต่อความพึงพอใจของนักท่องเที่ยวและภาพลักษณ์ของประเทศไทยในฐานะจุดหมายปลายทางยอดนิยมของนักท่องเที่ยว

นายวิชิต ประกอบโกศล นายกสมาคมไทยธุรกิจการท่องเที่ยว เปิดเผยว่า ปัญหานี้เกิดขึ้นในทุกสนามบินนานาชาติหลักของประเทศ ได้แก่ สุวรรณภูมิ ดอนเมือง เชียงใหม่ ภูเก็ต และกระบี่ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงที่มีเที่ยวบินลงพร้อมกันจำนวนมาก ทำให้เกิดความแออัดและระยะเวลารอคอยที่ยาวนาน ส่งผลให้นักท่องเที่ยวเกิดความไม่พอใจและแสดงความคิดเห็นในเชิงลบผ่านสื่อสังคมออนไลน์ ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อภาพลักษณ์ของประเทศไทยในระยะยาว

สาเหตุของปัญหาและผลกระทบ

ปัญหาการออกวีซ่าล่าช้าเกิดจากหลายปัจจัย ได้แก่:

1. การขาดแคลนเจ้าหน้าที่ในการให้บริการ โดยเฉพาะในช่วงที่มีนักท่องเที่ยวเดินทางเข้าประเทศจำนวนมาก
2. ความล่าช้าในการออกวีซ่าจากสถานกงสุลในต่างประเทศ โดยเฉพาะในประเทศจีนและอินเดีย ทำให้นักท่องเที่ยวจำนวนมากเลือกที่จะทำวีซ่าเมื่อเดินทางมาถึงประเทศไทย
3. ข้อจำกัดด้านโครงสร้างพื้นฐานของสนามบิน ทำให้ไม่สามารถรองรับปริมาณนักท่องเที่ยวที่เพิ่มขึ้นได้อย่างมีประสิทธิภาพ

ผลกระทบที่เกิดขึ้นมีหลายประการ ดังนี้:

1. นักท่องเที่ยวเกิดความไม่พอใจและแสดงความคิดเห็นในเชิงลบผ่านสื่อสังคมออนไลน์
2. ภาพลักษณ์ของประเทศไทยในฐานะจุดหมายปลายทางการท่องเที่ยวอาจได้รับผลกระทบในระยะยาว
3. กลุ่มทัวร์ที่เดินทางมาถึงในช่วงดึกต้องรอคอยเป็นเวลานาน ส่งผลต่อความพึงพอใจของนักท่องเที่ยวและการจัดการเวลาของบริษัททัวร์

แนวทางการแก้ไขปัญหา

แอตต้าเสนอแนวทางการแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้า ดังนี้:

1. เพิ่มจำนวนเจ้าหน้าที่ในการให้บริการออกวีซ่า โดยเฉพาะในช่วงเวลาที่มีนักท่องเที่ยวเดินทางเข้าประเทศจำนวนมาก
2. ปรับปรุงมาตรฐานการให้บริการเพื่อลดระยะเวลาในการออกวีซ่า
3. พิจารณาการกระจายเที่ยวบินไปยังสนามบินเมืองรองเพื่อลดความแออัด แต่ต้องมีการปรับปรุงโครงสร้างพื้นฐานของสนามบินเหล่านั้นให้พร้อมรองรับ

แนวโน้มการท่องเที่ยวและความสำคัญของการแก้ไขปัญหา

แม้จะเกิดปัญหาดังกล่าว แต่แนวโน้มการท่องเที่ยวของประเทศไทยยังคงอยู่ในเกณฑ์ที่ดี โดยในปี 2560 มีนักท่องเที่ยวต่างชาติที่เดินทางผ่านบริษัทนำเที่ยวสมาชิกแอตต้ากว่า 5.49 ล้านคน เพิ่มขึ้น 6.81% เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า และคาดว่าจะเพิ่มเป็น 5.85 ล้านคนในปลายปี โดยมีตลาดจีนเป็นกลุ่มนักท่องเที่ยวหลัก ตามด้วยเวียดนามและเกาหลีใต้

การแก้ไขปัญหาความล่าช้าในการออกวีซ่าจึงมีความสำคัญอย่างยิ่งในการรักษาความพึงพอใจของนักท่องเที่ยวและภาพลักษณ์ของประเทศไทย เพื่อรักษาโอกาสในการดึงดูดนักท่องเที่ยวในอนาคตและส่งเสริมการเติบโตของอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวไทยอย่างยั่งยืน