ทางการไทยได้ออกมายืนยันว่าการเปลี่ยนแปลงบริษัทรับทำวีซ่าที่ไต้หวันเป็นไปเพื่อยกระดับมาตรฐานการให้บริการ โดยไม่มีการเพิ่มค่าธรรมเนียมวีซ่าแต่อย่างใด พร้อมทั้งชี้แจงว่าจำนวนชาวไต้หวันที่ยื่นขอวีซ่าเข้าประเทศไทยยังคงเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องทุกปี
เมื่อวันที่ 5 กันยายน นายธงชัย ชาสวัสดิ์ ผู้อำนวยการสำนักงานการค้าและเศรษฐกิจไทย ณ กรุงไทเป ไต้หวัน ได้ออกมาชี้แจงประเด็นที่มีการเข้าใจผิดเกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงระบบการให้บริการวีซ่าสำหรับชาวไต้หวัน โดยเฉพาะกรณีที่มีการระบุว่าบริษัททัวร์ของไต้หวันยกเลิกแพ็กเกจทัวร์เนื่องจากไม่พอใจเรื่องการขอวีซ่าใหม่ที่ต้องเสียค่าใช้จ่ายเพิ่มขึ้น
นายธงชัยได้อธิบายว่า การเปลี่ยนแปลงนี้เป็นไปเพื่อยกระดับมาตรฐานการให้บริการ โดยเลือกบริษัทที่มีมาตรฐานสากลมารับทำวีซ่าแทนที่ระบบเดิม ซึ่งมีปัญหาด้านมาตรฐานและความปลอดภัย โดยยืนยันว่าค่าธรรมเนียมวีซ่าไม่ได้เพิ่มขึ้น ยังคงอยู่ที่ 1,200 ดอลลาร์ไต้หวันเช่นเดิม
ความเข้าใจผิดเกี่ยวกับค่าใช้จ่ายที่เพิ่มขึ้น
นายธงชัยได้ชี้แจงว่า ความเข้าใจผิดเกี่ยวกับค่าใช้จ่ายที่เพิ่มขึ้นนั้นมาจากการที่ในอดีต มีชาวไต้หวันประมาณ 80% ที่ขอวีซ่าผ่านเอเย่นต์ ซึ่งคิดค่าบริการเพิ่มอีก 300 ดอลลาร์ไต้หวัน โดยไม่มีใบเสร็จ ทำให้เกิดความเข้าใจผิดว่าค่าวีซ่าไทยมีราคา 1,500 ดอลลาร์ไต้หวัน
การเปลี่ยนแปลงครั้งนี้ ทางการไทยได้เลือกบริษัท VFS Global ซึ่งเป็นผู้ให้บริการที่มีมาตรฐานสูงระดับสากล มีความปลอดภัย และทันสมัย โดยคิดค่าบริการ 470 ดอลลาร์ไต้หวัน ซึ่งแม้จะสูงกว่าค่าบริการของเอเย่นต์เดิม แต่ก็มาพร้อมกับคุณภาพการบริการที่ดีกว่าอย่างเห็นได้ชัด
นอกจากนี้ นายธงชัยยังเน้นย้ำว่า ผู้ที่ต้องการยื่นขอวีซ่าด้วยตนเองโดยไม่ผ่านเอเย่นต์หรือ VFS ก็ยังสามารถทำได้ โดยเสียค่าใช้จ่ายเพียง 1,200 ดอลลาร์ไต้หวันเท่านั้น
สถิติการขอวีซ่าของชาวไต้หวัน
ในส่วนของจำนวนนักท่องเที่ยวไต้หวันที่มาขอวีซ่า นายธงชัยได้เปิดเผยตัวเลขล่าสุดซึ่งแสดงให้เห็นว่าไม่ได้มีการลดลงแต่อย่างใด โดยในช่วงปลายเดือนสิงหาคมถึงต้นเดือนกันยายน 2566 มีจำนวนผู้ขอวีซ่าดังนี้:
– 28 ส.ค. : 2,716 คน
– 29 ส.ค. : 2,911 คน
– 30 ส.ค. : 2,521 คน
– 31 ส.ค. : 2,502 คน
– 3 ก.ย. : 2,337 คน
– 4 ก.ย. : 3,085 คน
ตัวเลขเหล่านี้แสดงให้เห็นว่าความสนใจในการเดินทางมาท่องเที่ยวประเทศไทยของชาวไต้หวันยังคงมีอย่างต่อเนื่อง และไม่ได้รับผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงระบบการให้บริการวีซ่าแต่อย่างใด
เหตุผลในการยกระดับมาตรฐานการขอวีซ่า
นายธงชัยได้อธิบายถึงความจำเป็นในการยกระดับมาตรฐานการขอวีซ่าที่ไต้หวัน โดยมีเหตุผลสำคัญดังนี้:
1. เพื่อความปลอดภัยของสถานที่และเจ้าหน้าที่ปฏิบัติงาน
2. ลดความเดือดร้อนที่เกิดขึ้นกับเอกชนที่ทำงานในอาคารเดียวกับสำนักงานฯ เนื่องจากมีผู้มาขอวีซ่าจำนวนมากจนล้นออกนอกอาคาร
3. ปรับปรุงคุณภาพชีวิตของเจ้าหน้าที่และลูกจ้าง ซึ่งต้องปฏิบัติงานเกินชั่วโมงทำงานที่กฎหมายกำหนด โดยเฉพาะในช่วงที่มีการขอวีซ่าเกิน 5,000 ราย ซึ่งต้องปฏิบัติหน้าที่จนถึงเวลา 22.00 น. หรือบางครั้งถึง 24.00 น.
สรุป
การเปลี่ยนแปลงระบบการให้บริการวีซ่าสำหรับชาวไต้หวันที่ต้องการเดินทางมาประเทศไทยเป็นไปเพื่อยกระดับมาตรฐานการให้บริการและแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้นในระบบเดิม โดยไม่ได้ส่งผลกระทบต่อจำนวนผู้ขอวีซ่าแต่อย่างใด ทั้งนี้ ทางการไทยยังคงเปิดโอกาสให้ผู้ที่ต้องการยื่นขอวีซ่าด้วยตนเองสามารถทำได้โดยไม่ต้องผ่านบริษัทตัวแทน ซึ่งจะช่วยให้นักท่องเที่ยวชาวไต้หวันมีทางเลือกในการขอวีซ่าที่เหมาะสมกับความต้องการของตนเองมากยิ่งขึ้น