พันเอกหญิง แอน จรินทร แดงเปี่ยม อดีตนักกีฬายิงปืนทีมชาติไทย ได้ออกมาเปิดเผยเรื่องราวสะเทือนใจเกี่ยวกับชีวิตครอบครัวของเธอในรายการโทรทัศน์ยอดนิยม โดยเล่าถึงการที่สามีซึ่งมียศพันเอกเช่นกัน ได้แอบไปมีความสัมพันธ์ฉันชู้สาวกับทหารหญิงอายุเพียง 24 ปี ซึ่งทำหน้าที่เป็นเลขานุการประจำสำนักงานของสามีเธอ
คุณแอนเล่าว่าเธอแต่งงานกับสามีมาเป็นเวลาหลายปีและมีบุตรด้วยกัน แต่หลังจากแต่งงาน สามีของเธอต้องไปประจำการในต่างจังหวัด ซึ่งนำไปสู่พฤติกรรมนอกใจหลายครั้ง แต่กรณีล่าสุดนี้ถือเป็นเรื่องที่รุนแรงที่สุด เนื่องจากหญิงคนดังกล่าวมีอายุมากกว่าลูกของพวกเขาเพียงปีเดียวเท่านั้น
คุณแอนเริ่มสังเกตเห็นความผิดปกติในพฤติกรรมของสามี เช่น การไม่กลับบ้าน หรือกลับมาเพียงคืนเดียวแล้วอ้างว่าต้องไปควบคุมการฝึก เธอจึงตัดสินใจติดตั้ง GPS ไว้ที่รถของสามี และได้รับข้อมูลจาก “สายข่าว” ภายในหน่วยงานของสามีเกี่ยวกับพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสมระหว่างสามีกับเลขานุการสาว
การเผชิญหน้าและการแสวงหาความยุติธรรม
คุณแอนได้พยายามเผชิญหน้ากับสถานการณ์นี้โดยตรง โดยเข้าไปพูดคุยกับหญิงสาวคนดังกล่าวในงานเปิดตึกใหม่ของกองบัญชาการที่ปากช่อง แต่สามีของเธอได้เข้ามาขัดขวางการสนทนาอย่างรุนแรง นอกจากนี้ เธอยังได้รวบรวมหลักฐานต่างๆ รวมถึงภาพถ่ายที่แสดงให้เห็นว่าทั้งคู่เข้าพักในโรงแรมม่านรูดด้วยกัน
ด้วยหลักฐานที่มี คุณแอนได้ดำเนินการทางกฎหมายหลายช่องทาง
1. ร้องเรียนทางวินัยต่อหน่วยงานต้นสังกัดของสามี
2. ฟ้องร้องต่อศาลเยาวชนและครอบครัว ซึ่งศาลชั้นต้นได้มีคำพิพากษาให้สามีและหญิงคนดังกล่าวจ่ายค่าทดแทน รวมถึงค่าเลี้ยงดูบุตร
อย่างไรก็ตาม คุณแอนรู้สึกว่าเธอยังไม่ได้รับความเป็นธรรมอย่างเต็มที่ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในส่วนของการดำเนินการทางวินัยภายในกองทัพ
ความท้าทายในการแสวงหาความยุติธรรมภายในระบบทหาร
คุณแอนแสดงความผิดหวังอย่างมากต่อกระบวนการสอบสวนภายในกองทัพ โดยเล่าว่าสามีของเธอให้การกับคณะกรรมการสอบสวนว่าเขาเพียงแค่เข้าไป “ปรับทุกข์” กับหญิงสาวในโรงแรม ไม่ได้มีความสัมพันธ์ลึกซึ้งแต่อย่างใด แม้ว่าคุณแอนจะยื่นอุทธรณ์ แต่ก็ยังไม่ได้รับการตอบกลับใดๆ
ด้วยความสิ้นหวัง คุณแอนถึงกับกล่าวว่าเธอเหลือทางเลือกเพียงสองทาง คือ การขอความช่วยเหลือจากสื่อมวลชน หรือไม่ก็ “ยิงตัวเองหน้ากองบัญชาการทหารบก” ซึ่งคำพูดนี้สะท้อนให้เห็นถึงความทุกข์ทรมานและความรู้สึกสิ้นหวังที่เธอกำลังเผชิญ
กัน นภัทร วิจิตรพงศ์พันธุ์ หรือ “กัน จอมพลัง” พิธีกรรายการ ได้แสดงความเห็นอกเห็นใจต่อสถานการณ์ของคุณแอน และตั้งคำถามถึงความยุติธรรมในระบบทหาร โดยสงสัยว่าหากเป็นกรณีที่ทหารหญิงมีชู้ และนายทหารชายเป็นฝ่ายร้องเรียน จะได้รับการตอบสนองที่รวดเร็วกว่าหรือไม่
เรื่องราวของคุณแอนได้จุดประเด็นคำถามสำคัญเกี่ยวกับความเท่าเทียมทางเพศและความยุติธรรมในระบบราชการทหาร รวมถึงความท้าทายที่ผู้หญิงต้องเผชิญเมื่อต้องแสวงหาความยุติธรรมในกรณีการนอกใจของคู่สมรส โดยเฉพาะอย่างยิ่งในบริบทของสถาบันที่มีโครงสร้างอำนาจที่ซับซ้อนเช่นกองทัพ
