ในช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา เกิดดรามาร้อนแรงในโซเชียลมีเดีย หลังจากที่มีภาพของนายกฯ แพทองธาร ชินวัตร ขณะพบหารือกับนายมัสอูด เปเซชกียาน ประธานาธิบดีอิหร่าน ระหว่างการประชุมผู้นำ ACD ที่กรุงโดฮา รัฐกาตาร์ ภาพนี้กลายเป็นกระแสเนื่องจากนายกฯ ถูกวิพากษ์วิจารณ์ว่าใช้ iPad อ่านข้อมูลระหว่างการสนทนา
การตอบสนองของชาวเน็ตและการชี้แจงของนายกฯ อิ๊งค์
จากกรณีนี้ ผู้ใช้โซเชียลมีเดียบางส่วนได้ออกมาให้กำลังใจ โดยมีผู้แชร์สตอรี่ที่แสดงความเชื่อมั่นในความตั้งใจของนายกฯ แพทองธาร พร้อมแคปชันให้กำลังใจ เช่น “พี่อิ๊งทำดีที่สุดแล้ว เป็นกำลังใจให้เสมอ” ต่อมานายกฯ ได้แชร์สตอรี่ดังกล่าวพร้อมข้อความว่า “ขอบคุณค่า แค่อยากจะให้ข้อมูลว่า… ได้นะยินดีรับฟัง แต่ว่าบนพื้นฐานของการรู้ไม่จริงมันก็ต้องบอกนิดนึงแหละเนาะ”
### การชี้แจงเพิ่มเติมจากที่ปรึกษานายกฯ
นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ ที่ปรึกษานายกฯ ได้ชี้แจงเพิ่มเติมถึงประเด็นนี้ว่า การประชุมระดับนานาชาติที่มีความสำคัญเชิงนโยบาย ผู้นำประเทศจำเป็นต้องอ่านเนื้อหาทุกตัวอักษร เพื่อรักษาความถูกต้องของข้อความ โดยระบุว่าในเวทีนานาชาติทุกประเทศให้ความสำคัญกับสาระเนื้อหามากกว่าภาพลักษณ์ภายนอก การอ่าน iPad จึงถือเป็นการทำงานที่ถูกต้องตามมาตรฐานระดับโลก
การอ่านเอกสารในการประชุมระดับชาติเป็นเรื่องปกติ
นายจิรายุกล่าวว่า ผู้นำที่เข้าร่วมประชุมเช่นนี้ ต้องอาศัยการอ่านข้อมูลที่เตรียมไว้เพื่อไม่ให้ข้อมูลสำคัญตกหล่น การอ่านข้อมูลบนอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ เช่น iPad นั้นไม่ใช่เรื่องแปลกในการประชุมที่มีข้อผูกพันเชิงนโยบาย และการใช้เอกสารในการประชุมเหล่านี้สะท้อนถึงความจริงจังในการสื่อสารและการเจรจาทางการเมืองที่ต้องตรงตามเนื้อหาเดิมทุกประการ
### การตอบโต้ของนายกฯ ต่อคำวิจารณ์
ในโลกออนไลน์ นายกฯ แพทองธารได้เข้ามาตอบกลับชาวเน็ตที่วิจารณ์การอ่าน iPad ของเธอ โดยให้ความรู้เกี่ยวกับธรรมเนียมการประชุมว่า “เวลาประชุมแบบนี้ ทั่วโลกเค้าอ่านกันค่ะ… เป็น commitment ต้องบันทึกค่ะอ่านทุกคนตั้งแต่ sheikh ถึง minister เลยค่ะ” นอกจากนี้เธอยังชี้ให้เห็นว่าหากเป็นการประชุมทวิภาคี การพูดคุยส่วนใหญ่จะไม่ต้องใช้สคริปต์เพื่อสร้างการเชื่อมโยงและความสัมพันธ์ที่ดี
เพื่อสื่อสารกับผู้ติดตามใน Instagram นายกฯ ยังแคปภาพการตอบกลับดังกล่าว พร้อมข้อความว่า “ชี้แจงหน่อยแล้วกันเนาะ คือตอนก่อนไปก็เตรียมตัวค่ะ ว่าต้องอ่านหรือต้องเป็นรูปแบบไหน คนอื่นเค้าทำยังไงกัน… งานระดับประเทศจะไปอยู่ในแนวทางที่ต่างออกไปก็ไม่ได้”