“จาค็อบ สมิธ” นักชกจากสหราชอาณาจักร วัย 32 ปี เตรียมพร้อมเต็มที่สำหรับการแก้มือในศึกใหญ่กับ “รถถัง จิตรเมืองนนท์” แชมป์โลก ONE มวยไทย รุ่นฟลายเวต (125-135 ป.) วัย 27 ปี ผู้เป็นขวัญใจชาวไทย โดยในครั้งนี้ รถถังจะป้องกันตำแหน่งเป็นครั้งที่ 6 ทั้งคู่จะพบกันในศึก ONE 169 ซึ่งจะจัดขึ้นที่สนามมวยเวทีลุมพินี (รามอินทรา) ถ่ายทอดสดตรงกับช่วงไพรม์ไทม์ของอเมริกา เวลา 08.00 น. เช้าวันเสาร์ที่ 9 พฤศจิกายนนี้
การเจอกันครั้งแรกและบทเรียนที่ได้รับ
จาค็อบเปิดตัวครั้งแรกกับ ONE ในการแข่งขัน ONE มวยไทย เวิลด์ กรังด์ปรีซ์ รุ่นฟลายเวต เมื่อวันที่ 20 พฤษภาคม 2565 ในศึก ONE 157 โดยคู่แรกที่เขาต้องเผชิญคือ รถถัง ซึ่งครองตำแหน่งแชมป์โลก ONE มวยไทย รุ่นฟลายเวตในขณะนั้น ผลปรากฏว่าเขาต้องพ่ายแพ้ให้กับรถถัง และตกรอบไปตั้งแต่ครั้งแรก จาค็อบเล่าถึงประสบการณ์ที่ได้รับจากไฟต์นั้นว่า “ครั้งแรกที่เจอกัน รถถังเอาชนะผมได้ง่าย ๆ ผมยังไม่เข้าใจในฝีมือเขาเท่าที่ควร จนได้เจอกันบนเวที แล้วรู้ว่าเขาเหนือกว่าอย่างแท้จริง ทุกจังหวะเขานำหน้าผมไป 1-2 ก้าว การแข่งขันครั้งนั้นกลายเป็นบทเรียนที่สำคัญให้ผมมองเห็นจุดอ่อนของตัวเอง”
ไฟต์ถัดมาและความคืบหน้าของจาค็อบ
หลังจากพ่ายแพ้ครั้งแรก จาค็อบได้ลงแข่งขันอีกหลายครั้ง โดยไฟต์ถัดไปเขาได้พบกับ “วอลเตอร์ กอนซาลเวส” อดีตผู้ท้าชิงแชมป์โลกจากบราซิล ซึ่งรั้งอันดับ 2 ของแรงกิงในขณะนั้น วอลเตอร์เองเคยขึ้นชิงบัลลังก์กับรถถังแต่พ่ายแพ้ไปอย่างไม่เอกฉันท์ ทว่าในการพบกันครั้งนี้ จาค็อบกลับเป็นฝ่ายชนะวอลเตอร์ตั้งแต่ยกแรกในศึก ONE Fight Night 17 เมื่อเดือนธันวาคม 2566 นอกจากนี้ ในศึก ONE Fight Night 21 เมื่อวันที่ 6 เมษายนที่ผ่านมา จาค็อบต้องเผชิญหน้ากับ “เดนิส พูริช” นักมวยจากบอสเนียวัย 39 ปี ซึ่งทำให้จาค็อบพลาดท่าและต้องหล่นมาอยู่อันดับ 3 ของแรงกิงในปัจจุบัน
ความพร้อมสำหรับการแก้มือกับรถถังในครั้งนี้
ถึงแม้จะมีการแพ้ในครั้งแรกและการเผชิญหน้าที่ยากลำบากในการแข่งขันหลายครั้ง จาค็อบได้แสดงถึงความไม่ยอมแพ้และมุ่งมั่นพัฒนาฝีมือตัวเอง “ผมไม่เคยคิดแก้ตัวในความพ่ายแพ้ครั้งก่อนกับรถถัง เพราะมันเป็นไฟต์ที่เกิดขึ้นเมื่อ 2 ปีกว่า และในตอนนั้นผมเพิ่งเริ่มต้นบนเวที ONE พร้อมกับสวมใส่นวมขนาด 4 ออนซ์ครั้งแรก” จาค็อบกล่าว
ปัจจุบัน จาค็อบมีความมั่นใจในความสามารถและความคุ้นเคยกับเวที ONE มากขึ้น พร้อมที่จะกลับมาท้าทายแชมป์เก่าอีกครั้ง เขากล่าวด้วยความเชื่อมั่นว่า “การชกครั้งนี้ ผมมีความพร้อมกว่าครั้งก่อน และมั่นใจว่าผมจะใช้โอกาสครั้งนี้พิสูจน์ฝีมือในการคว้าชัยชนะจากรถถังได้”