เมื่อวันที่ 28 ตุลาคม 2567 นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ประธานคณะก้าวหน้า ได้เผยแพร่จดหมายถึง นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี โดยมีเนื้อหาขอให้ทบทวนการออกสัมปทานรับซื้อพลังงานหมุนเวียนขนาด 3,600 เมกะวัตต์ ซึ่งอาจจะส่งผลให้เกิดการเอื้อประโยชน์แก่กลุ่มทุนพลังงาน
การรับซื้อพลังงานที่ไม่เหมาะสม
นายธนาธรระบุว่าเขาไม่เห็นด้วยกับการประกาศรับซื้อพลังงานหมุนเวียนขนาด 3,600 เมกะวัตต์ที่ได้ผ่านความเห็นชอบจากคณะกรรมการนโยบายพลังงานแห่งชาติ (กพช.) ซึ่งนายกรัฐมนตรีดำรงตำแหน่งเป็นประธานอยู่ในขณะนี้ เขาชี้ว่าการรับซื้อครั้งนี้มีราคาที่สูงเกินไปและไม่เปิดให้มีการประมูลแข่งขัน ซึ่งหากมีการดำเนินการต่อไป จะส่งผลให้รัฐและประชาชนต้องแบกรับค่าไฟที่สูงเกินจำเป็น
เปรียบเทียบกับการซื้อพลังงานในอดีต
การจัดซื้อพลังงานหมุนเวียน 3,600 เมกะวัตต์ในครั้งนี้ ใช้หลักการและราคาที่คล้ายคลึงกับการจัดซื้อพลังงานหมุนเวียนขนาด 5,200 เมกะวัตต์ในปี 2565 สมัยที่พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา เป็นนายกรัฐมนตรี โดยมีการเสนอขายจากเอกชนสูงถึง 17,400 เมกะวัตต์ ซึ่งมากกว่าที่รัฐบาลต้องการถึง 3.3 เท่า แสดงให้เห็นว่าราคาที่ตั้งไว้สูงเกินกว่าราคาตลาด ซึ่งทำให้เอกชนมีความสนใจเสนอขายในจำนวนมาก
ข้อเรียกร้องเพื่อการเปลี่ยนผ่านที่เป็นธรรม
ในฐานะที่นายแพทองธาร เป็นประธานคณะกรรมการนโยบายพลังงานแห่งชาติ นายธนาธรจึงขอเรียกร้องให้ท่านทบทวนนโยบายการจัดซื้อพลังงาน 3,600 เมกะวัตต์อีกครั้ง โดยการประกาศผู้ได้รับการคัดเลือกจะเกิดขึ้นในปลายปีนี้ และการลงนามในสัญญาจะมีขึ้นในปีหน้า ทำให้ยังมีเวลาที่จะทำให้การเปลี่ยนผ่านประเทศไปสู่การใช้พลังงานสะอาดเป็นไปอย่างเป็นธรรม
ในส่วนของการตอบกระทู้สดของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงานเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา คุณพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค ได้แสดงความเห็นว่ามีข้อบกพร่องในเงื่อนไขการซื้อพลังงาน และได้ให้คำมั่นว่าจะทบทวนการซื้อพลังงานครั้งนี้
สรุป
อย่างไรก็ตาม นายธนาธรยังเน้นย้ำถึงความสำคัญของอำนาจในการหยุดยั้งและแก้ไข ซึ่งไม่ได้อยู่ที่รัฐมนตรี แต่เป็นหน้าที่ของนายกรัฐมนตรีในฐานะประธานคณะกรรมการนโยบายพลังงานแห่งชาติ เขาเตือนว่า อย่าให้การเปลี่ยนผ่านไปสู่พลังงานสะอาดเป็นโอกาสให้กลุ่มทุนร่ำรวยขึ้นโดยไม่ต้องอาศัยนวัตกรรมที่เป็นประโยชน์ต่อประเทศ และอย่าให้ประชาชนต้องรับภาระค่าไฟที่สูงขึ้นจากการเปลี่ยนผ่านนี้อีกด้วย
