เมื่อวันที่ 27 ตุลาคม 2567 นางสาวอำนวยพร มณีวรรณ์ หรือที่รู้จักในชื่อ “ทนายกุ้ง” ได้ใช้โซเชียลมีเดียโพสต์ข้อความที่สร้างความฮือฮาในหมู่ผู้ติดตาม โดยเธอได้พูดถึงความหมายของการ “ให้โดยเสน่หา” พร้อมเปิดเผยตัวเลขใหม่เกี่ยวกับเงินที่ “เจ๊อ้อย” ทนายชื่อดังได้รับ ซึ่งเธอระบุว่าไม่ใช่แค่ 71 ล้าน แต่มีมูลค่ามากกว่านั้นถึง 100 ล้าน!
ความหมายของการ “ให้โดยเสน่หา”
ในโพสต์ดังกล่าว ทนายกุ้งได้เขียนแคปชั่นสั้นๆ ว่า “ให้โดยเสน่หา..ไม่หวังผลตอบแทน ฉ้อโกง..ปกปิดข้อมูล เจตนาหลอกลวง..!” โดยเธออธิบายว่าการ “ให้โดยเสน่หา” หมายถึงการโอนทรัพย์สินจากบุคคลหนึ่งไปยังอีกบุคคลหนึ่งโดยไม่มีค่าตอบแทน ซึ่งผู้ให้และผู้รับไม่มีความสัมพันธ์ทางครอบครัว ตัวอย่างของการให้โดยเสน่หานี้รวมถึงการมอบทรัพย์สินให้กับบุตรบุญธรรม คู่ชีวิต หรือเพื่อนสนิท
ในส่วนที่เกี่ยวข้องกับการกระทำที่เป็นความผิดซึ่งเกี่ยวข้องกับการหลอกลวง ทนายกุ้งได้ชี้แจงว่าการหลอกลวงคือการทำให้ผู้ที่เกี่ยวข้องเข้าใจผิด โดยอาจจะเกิดจากการแสดงข้อความเท็จ หรือการปกปิดข้อมูลที่ควรจะบอกให้รู้
ข้อมูลใหม่ที่น่าตกใจ
ต่อมา ทนายกุ้งได้โพสต์เพิ่มเติมเกี่ยวกับการสอบสวนที่กำลังดำเนินการโดยตำรวจสอบสวนกลาง ซึ่งมีการเรียก “พี่อ้อย” มาสอบสวนในกรณีที่ทนายดังถูกกล่าวหาว่าฉ้อโกง โดยทนายกุ้งเปิดเผยว่าจำนวนเงินที่ได้รับจาก “เจ๊อ้อย” นั้น ไม่ใช่แค่ 71 ล้าน แต่มีมูลค่ามากถึง 100 ล้านบาท ทำให้เกิดความตื่นตระหนกในหมู่ชาวโซเชียลฯ ที่ติดตามข่าวสารนี้ โดยมีผู้คนมากมายแสดงความคิดเห็นและแชร์ข้อมูลดังกล่าวในแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียอย่างแพร่หลาย
การเปิดเผยข้อมูลนี้ได้สร้างกระแสความสนใจในสังคม และมีการพูดถึงอย่างกว้างขวาง โดยเฉพาะในกลุ่มผู้ที่เกี่ยวข้องกับวงการกฎหมายและการลงทุน ทำให้การสืบสวนในเรื่องนี้น่าสนใจและต้องติดตามต่อไป ว่าจะมีความเคลื่อนไหวหรือความคืบหน้าในคดีนี้อย่างไรในอนาคต.