ฝนถล่ม-น้ำหลาก! “กรมชลประทาน” เตรียมพร้อมสูงสุด ช่วยเหลือประชาชนทุกพื้นที่เสี่ยง

ศูนย์ปฏิบัติการน้ำอัจฉริยะ (SWOC) กรมชลประทาน ออกมาเปิดเผยความเคลื่อนไหวล่าสุด หลังกรมอุตุนิยมวิทยาได้ประกาศฉบับที่ 1 (181/2568) ว่า ประเทศไทยกำลังจะเผชิญกับสภาพอากาศแปรปรวน โดยจะมีฝนตกเพิ่มขึ้นและตกหนักถึงหนักมากในหลายพื้นที่ ระหว่างวันที่ 19–24 กรกฎาคม 2568

สาเหตุเกิดจากร่องมรสุมที่พาดผ่านบริเวณภาคเหนือตอนบนของประเทศไทย รวมถึงประเทศลาวตอนบน และประเทศเวียดนามตอนบน ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่กำลังพัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทย ซึ่งมีแนวโน้มทวีกำลังแรงขึ้น ขณะเดียวกันยังพบพายุดีเปรสชันบริเวณด้านตะวันออกของฟิลิปปินส์ ที่คาดว่าจะพัฒนาเป็นพายุโซนร้อน ก่อนเคลื่อนผ่านตอนบนของฟิลิปปินส์ลงสู่ทะเลจีนใต้ตอนบน ระหว่างวันที่ 19–22 กรกฎาคม 2568 ปรากฏการณ์เหล่านี้จะยิ่งทำให้สภาพอากาศทั่วประเทศได้รับอิทธิพลโดยตรง

พื้นที่เสี่ยงฝนตกหนักที่ต้องเฝ้าระวัง

  • ภาคเหนือ: เชียงราย พะเยา น่าน แพร่ อุตรดิตถ์ และตาก
  • ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ: หนองคาย บึงกาฬ สกลนคร และนครพนม
  • ภาคกลาง: อุทัยธานี และกาญจนบุรี
  • ภาคตะวันออก: จันทบุรี และตราด
  • ภาคใต้: ระนอง และพังงา

กรมชลประทานสั่งเข้ม เตรียมรับมือทันที

เพื่อป้องกันผลกระทบที่อาจเกิดขึ้น กรมชลประทานได้ออกคำสั่งไปยังโครงการชลประทานทั่วประเทศให้เตรียมความพร้อมในทุกมิติ

  • เฝ้าติดตามสภาพอากาศและสถานการณ์น้ำอย่างใกล้ชิดตลอด 24 ชั่วโมง
  • จัดเตรียมเจ้าหน้าที่ เครื่องจักรกลหนัก และอุปกรณ์ช่วยเหลือให้พร้อมปฏิบัติการในพื้นที่เสี่ยงทันที
  • ตรวจสอบอาคารชลประทานทุกแห่งให้อยู่ในสภาพพร้อมใช้งาน
  • ปรับแผนการบริหารจัดการน้ำในเขื่อนและอ่างเก็บน้ำให้สอดคล้องกับปริมาณฝนและน้ำท่า
  • เร่งประสานความร่วมมือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อให้สามารถแจ้งเตือนประชาชนได้อย่างทันท่วงที

ช่องทางช่วยเหลือประชาชน

กรมชลประทานย้ำว่า หากประชาชนพบปัญหาน้ำท่วม หรือต้องการความช่วยเหลือเกี่ยวกับสถานการณ์น้ำ สามารถติดต่อโครงการชลประทานในพื้นที่ หรือสายด่วนกรมชลประทาน โทร. 1460 ได้ตลอด 24 ชั่วโมง

Scroll to Top