แม่เศร้าสุดซึ้ง! ลูกชายวัย 7 ขวบ ป่วยด้วยโรคไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์เอ ที่รุนแรงถึงขั้นเกิด

เมื่อวันที่ 17 มิถุนายน 2567 ทางเพจ “สายใหม่ต้องรอด” บนเฟซบุ๊กได้เผยแพร่เรื่องราวสะเทือนใจของแม่คนหนึ่ง ที่ลูกชายวัยเพียง 7 ขวบ ซึ่งกำลังศึกษาอยู่ชั้นประถมศึกษาปีที่ 2 โรงเรียนแห่งหนึ่งในพื้นที่อำเภอนครชัยศรี จังหวัดนครปฐม ได้ป่วยด้วยโรคไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์เอ ในระดับที่รุนแรงมาก

ภาวะวิกฤตเริ่มต้นขึ้นเมื่อวันที่ 7 มิถุนายน เด็กชายต้องหมดสติไปอย่างกะทันหัน หลังจากที่ก่อนหน้านั้นเพียงสองวัน เขายังสามารถไปเรียนหนังสือได้ตามปกติ เมื่อพาตัวมาถึงโรงพยาบาล แพทย์จึงได้วินิจฉัยว่าเขากำลังป่วยเป็นไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์เอ ในระดับรุนแรง จนทำให้เกิดภาวะสมองอักเสบอย่างฉับพลัน

หลายวันผ่านไป อาการของเด็กชายกลับไม่ดีขึ้นแต่อย่างใด เขายังคงนอนหมดสติอยู่ในหอผู้ป่วยวิกฤต (ไอซียู) มาจนถึงทุกวันนี้ เป็นเวลานานกว่า 11 วันแล้ว โดยแพทย์ได้เปิดเผยกับมารดาของเด็กว่า พวกเขาได้ทำการรักษาอย่างเต็มที่แล้ว แต่ยังไม่อาจทำให้อาการดีขึ้นได้ รวมทั้งไม่มีผู้ป่วยรายใดที่ป่วยเป็นโรคในลักษณะเดียวกันนี้ ที่สามารถออกจากโรงพยาบาลได้อย่างปลอดภัย

 อันตรายจากไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์เอ

โรคไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์เอ ถือเป็นหนึ่งในชนิดของไข้หวัดใหญ่ที่มีความรุนแรง และแพร่กระจายได้ง่ายผ่านทางสารคัดหลั่งต่างๆ ของผู้ป่วย เช่น น้ำมูก เสมหะ และน้ำลาย โดยช่วงระยะฟักตัวนั้นจะอยู่ที่ประมาณ 1-3 วัน หากไม่ได้รับการป้องกันและรักษาอย่างทันท่วงที โรคนี้อาจก่อให้เกิดอาการรุนแรงและภาวะแทรกซ้อนที่น่ากลัวได้ เช่น การหายใจไม่สะดวก ปอดอักเสบ หรือแม้แต่การเสียชีวิต

แม้อาการแรกเริ่มจะเหมือนไข้หวัดธรรมดา เช่น มีไข้สูง ปวดศีรษะ ปวดเมื่อยตามตัว เจ็บคอ ไอ และอาจมีอาการท้องเสีย คลื่นไส้อาเจียนร่วมด้วย แต่หากเกิดอาการรุนแรงดังกล่าว จำเป็นต้องรีบพบแพทย์เพื่อรับการรักษาโดยด่วน 

เพื่อป้องกันไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์เอ จึงควรหมั่นออกกำลังกายและรับประทานอาหารที่มีประโยชน์ เพื่อเสริมสร้างภูมิคุ้มกันให้แข็งแรง รวมถึงฉีดวัคซีนป้องกันไข้หวัดใหญ่ประจำปีตามคำแนะนำของแพทย์ หลีกเลี่ยงการเข้าใกล้ชิดผู้ป่วย ล้างมือบ่อยครั้ง และใช้หน้ากากอนามัยในกรณีที่ป่วยเอง เพื่อไม่ให้เป็นตัวการแพร่กระจายเชื้อไวรัสไปสู่บุคคลอื่นด้วย

ทั้งนี้ เหตุการณ์ครั้งนี้ทำให้มีผู้ใช้โซเชียลมีเดียจำนวนมากต่างเข้ามาแสดงกำลังใจ ให้กำลังใจและขอพรให้เด็กชายหายเจ็บป่วยโดยเร็ว พร้อมกันนั้นก็หวังว่าการไหวตัวขอความช่วยเหลือของมารดาครั้งนี้ จะทำให้ได้รับความสนใจจากแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ เพื่อนำวิธีการรักษาพิเศษมารักษาลูกชายของเธาให้กลับมามีสุขภาพแข็งแรงอีกครั้งหนึ่ง