ในวันที่ 12 มิถุนายน พุทธศักราช 2567 ราชกิจจานุเบกษา เล่ม 141 ตอนที่ 28 ข หน้า 1 ได้เผยแพร่พระบรมราชโองการสถาปนาสมณศักดิ์ โดยพระบาทสมเด็จพระปรเมนทรรามาธิบดีศรีสินทรมหาวชิราลงกรณ มหิศรภูมิพลราชวรางกูร กิติสิริสมบูรณอดุลยเดช สยามินทราธิเบศรราชวโรดม บรมนาถบพิตร พระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้ประกาศว่า ด้วยทรงพระราชดำริเห็นว่ามีพระสงฆ์ผู้ดำรงในสมณคุณ และมีอุปการะยิ่งแก่พระพุทธศาสนา สมควรได้รับการเลื่อนอิสริยฐานันดรในสมณศักดิ์สูงขึ้น จึงทรงพระกรุณาโปรดสถาปนาพระภิกษุสองรูป ดังนี้
- พระธรรมเมธี ได้รับการสถาปนาขึ้นเป็นพระราชาคณะเจ้าคณะรอง มีราชทินนามว่า “พระพรหมวชิราลังการ” พร้อมด้วยสร้อยนามอันทรงเกียรติ ประจำอยู่ ณ วัดจันทนาราม จังหวัดจันทบุรี
- พระธรรมวชิรญาณ ได้รับการสถาปนาขึ้นเป็นพระราชาคณะเจ้าคณะรอง มีราชทินนามว่า “พระพรหมวชิรรังษี” พร้อมด้วยสร้อยนามอันทรงเกียรติ ประจำอยู่ ณ วัดบวรนิเวศราชวรวิหาร พระอารามหลวง กรุงเทพมหานคร
ทั้งสองรูปมีฐานานุศักดิ์ตั้งฐานานุกรมได้ 8 รูปเท่ากัน
บทบาทและความรับผิดชอบของพระราชาคณะเจ้าคณะรอง
พระราชาคณะเจ้าคณะรองมีบทบาทสำคัญในการทำนุบำรุงพระพุทธศาสนา โดยได้รับการอาราธนาให้รับธุระพระพุทธศาสนาในหลายด้าน ได้แก่:
- เป็นภาระในการสั่งสอนพระธรรมวินัย
- ช่วยระงับอธิกรณ์ หรือกรณีพิพาทต่างๆ ที่เกิดขึ้นในคณะสงฆ์
- ให้การอนุเคราะห์ดูแลพระภิกษุสามเณรในคณะและในพระอาราม ตามกำลังและอิสริยยศที่ได้รับพระราชทาน
นอกจากนี้ ยังมีการอำนวยพรให้ท่านทั้งสองจงเจริญด้วยอายุ วรรณะ สุขะ พละ ปฏิภาณ คุณสารสิริสวัสดิ์ มีความเจริญรุ่งเรืองยั่งยืนในพระพุทธศาสนาสืบไป
การสถาปนาสมณศักดิ์ครั้งนี้มีผลตั้งแต่วันที่ 6 มิถุนายน พุทธศักราช 2567 เป็นต้นไป ซึ่งถือเป็นการแสดงถึงพระมหากรุณาธิคุณของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวที่ทรงมีต่อพระพุทธศาสนาและพระภิกษุสงฆ์ผู้ทรงคุณูปการต่อพระศาสนา อันจะเป็นกำลังสำคัญในการสืบทอดและเผยแผ่พระพุทธศาสนาให้เจริญรุ่งเรืองสืบไป