เมื่อวันที่ 26 มิถุนายน 2567 ได้เกิดเหตุการณ์ที่สร้างความวิพากษ์วิจารณ์อย่างกว้างขวางในโลกออนไลน์ เมื่อมีการเผยแพร่คลิปวิดีโอแสดงภาพทหารยศสูงรายหนึ่งก่อเหตุขับรถเฉี่ยวชนสุภาพสตรี และใช้วาจาไม่สุภาพต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจภายในสถานีตำรวจ โดยอ้างว่าตนเองเป็นแพทย์และขู่ว่าจะใช้อำนาจสั่งย้ายเจ้าหน้าที่ทั้งโรงพัก
จากการสืบสวนเบื้องต้น พบว่าชายในคลิปดังกล่าวมียศถึงพลโท และสังกัดสำนักงานปลัดกระทรวงกลาโหม ปัจจุบันช่วยราชการอยู่ที่กรมแพทย์ทหารบก ซึ่งทางกองบัญชาการกองทัพบกได้ออกมายืนยันว่าบุคคลดังกล่าวไม่ได้สังกัดหน่วยงานของตน
ในการนี้ นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ โฆษกกระทรวงกลาโหม ได้ให้สัมภาษณ์ผ่านทางโทรศัพท์เพื่อชี้แจงรายละเอียดของเหตุการณ์ โดยยืนยันว่าผู้ก่อเหตุเป็นทหารจริง และดำรงตำแหน่งผู้ทรงคุณวุฒิของสำนักงานปลัดกระทรวงกลาโหม นายจิรายุได้เน้นย้ำถึงนโยบายของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมที่ให้เจ้าหน้าที่ทุกระดับชั้นยศต้องรักษาความอดทนและหลีกเลี่ยงความขัดแย้งกับประชาชน
มุมมองที่น่าสนใจของโฆษกกระทรวงกลาโหม
อย่างไรก็ตาม ประเด็นที่สร้างความฉงนให้กับสาธารณชนคือคำกล่าวของนายจิรายุที่แสดงความชื่นชมต่อผู้ก่อเหตุ โดยระบุว่า “ผมคิดว่าอย่างน้อย ผู้ก่อเหตุท่านนี้ อย่างน้อยแกก็ตรงไปตรงมา คิดอย่างไร รู้สึกอย่างไร ก็ Attack เลย ก็ขอขอบคุณนะครับที่ตรงไปตรงมา เป็นชายชาติทหารที่กล้าทำ กล้ารับผิดชอบ” นายจิรายุยังเสริมว่าพฤติกรรมเช่นนี้ดีกว่าการไปโกรธเคืองจากที่อื่นแล้วมาระบายกับผู้อื่นในภายหลัง
คำกล่าวดังกล่าวได้สร้างความไม่พอใจให้กับประชาชนจำนวนมาก ที่มองว่าเป็นการให้ความชอบธรรมกับพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสมของทหารยศสูงรายนี้ แทนที่จะเน้นย้ำถึงความรับผิดชอบและการลงโทษตามกฎหมายอย่างเคร่งครัด
ทั้งนี้ นายจิรายุได้กล่าวย้ำว่าในช่วงที่ผ่านมา จำนวนทหารที่ก่อเหตุนอกลู่นอกทางได้ลดลงอย่างมาก และยืนยันว่ากองทัพไทยยังคงอยู่ในระดับที่สามารถควบคุมและรับมือกับสถานการณ์ต่างๆ ได้ดี เมื่อเปรียบเทียบกับประเทศอื่นๆ
อย่างไรก็ตาม สังคมยังคงจับตามองการดำเนินการทางวินัยและกฎหมายต่อทหารยศสูงรายนี้ ว่าจะมีความเป็นธรรมและโปร่งใสมากน้อยเพียงใด รวมถึงการปรับปรุงมาตรการป้องกันไม่ให้เกิดเหตุการณ์ในลักษณะนี้ซ้ำอีกในอนาคต