กรมชลประทานกำลังเร่งดำเนินการศึกษาผลกระทบสิ่งแวดล้อมเบื้องต้นสำหรับโครงการอ่างเก็บน้ำห้วยแม่มาศ อันเนื่องมาจากพระราชดำริ ในจังหวัดเชียงใหม่ โครงการนี้มีเป้าหมายหลักในการเพิ่มปริมาณน้ำต้นทุนให้แก่ภาคครัวเรือนและภาคเกษตรกรรม โดยคาดว่าจะส่งผลให้เกิดการเพิ่มผลผลิตและรายได้แก่ประชาชนใน 5 หมู่บ้านของตำบลปิ้งโค้ง อำเภอเชียงดาว รวมแล้วกว่า 5,000 ครัวเรือน
นายมหิทธิ์ วงศ์ษา ผู้อำนวยการส่วนสิ่งแวดล้อม กรมชลประทาน ได้ให้ข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับสถานการณ์น้ำในพื้นที่ โดยระบุว่าชาวบ้านในพื้นที่ตำบลปิงโค้ง อำเภอเชียงดาว จังหวัดเชียงใหม่ ต้องพึ่งพาแหล่งน้ำจากลำน้ำแม่ป๋ามและห้วยแม่มาศเป็นหลักสำหรับการอุปโภคบริโภคและการเกษตร อย่างไรก็ตาม พวกเขามักประสบปัญหาขาดแคลนน้ำในช่วงฤดูแล้ง โดยเฉพาะระหว่างเดือนกุมภาพันธ์ถึงพฤษภาคม เนื่องจากในพื้นที่ไม่มีแหล่งกักเก็บน้ำที่เพียงพอ
ความเป็นมาของโครงการนี้ย้อนกลับไปถึงปี 2530 เมื่อราษฎรในพื้นที่ได้ทูลเกล้าฯ ถวายฎีกาขอพระราชทานโครงการอ่างเก็บน้ำห้วยแม่มาศ แต่เนื่องจากพื้นที่เดิมที่กำหนดไว้อยู่ในเขตอุทยานแห่งชาติผาแดง (เชียงดาว) ทำให้กรมชลประทานต้องทำการศึกษาและพิจารณาย้ายจุดที่ตั้งโครงการมาอยู่ด้านท้ายน้ำและนอกเขตอุทยาน การศึกษาวางโครงการแล้วเสร็จในเดือนพฤษภาคม 2561 พบว่าจุดที่ตั้งใหม่อยู่ในเขตพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติป่าเชียงดาว บริเวณป่าอนุรักษ์เพิ่มเติม โซน C ครอบคลุมพื้นที่ประมาณ 203 ไร่
ประโยชน์ที่คาดว่าจะได้รับจากโครงการ
- เพิ่มปริมาณน้ำต้นทุน: จากการศึกษาด้านอุทกวิทยา พบว่าพื้นที่บ้านปางโม่ ตำบลปิ้งโค้ง มีปริมาณน้ำท่าสูงถึง 3.2 ล้านลูกบาศก์เมตรต่อปี แต่ปัจจุบันมีเพียงฝายแม่ป๋ามและฝายแม่มาศที่สามารถบริหารจัดการน้ำได้เพียง 270,000 ลูกบาศก์เมตร โครงการนี้จะช่วยเพิ่มความสามารถในการกักเก็บน้ำอย่างมีนัยสำคัญ
- ขยายพื้นที่เกษตรกรรม: อ่างเก็บน้ำขนาดเล็กนี้จะมีปริมาณเก็บกัก 2.57 ล้านลูกบาศก์เมตร สามารถส่งน้ำให้พื้นที่เกษตรในฤดูแล้งได้ 3,414 ไร่ และในฤดูฝนได้ 3,547 ไร่
- เพิ่มความมั่นคงด้านน้ำ: โครงการจะเป็นแหล่งน้ำต้นทุนสำหรับกิจกรรมต่างๆ ของประชากรใน 6 หมู่บ้าน รวม 1,646 ครัวเรือน
- สร้างรายได้เพิ่ม: คาดว่าจะเพิ่มมูลค่าผลประโยชน์ทางการเกษตรได้ประมาณ 152,000 บาทต่อครัวเรือน
- ประโยชน์ด้านสิ่งแวดล้อม: นอกจากนี้ โครงการยังจะเป็นแหล่งน้ำสำคัญในการดับไฟป่าในอำเภอเชียงดาว ช่วยรักษาระบบนิเวศท้ายน้ำ และเป็นแหล่งท่องเที่ยวและเพาะพันธุ์สัตว์น้ำตามธรรมชาติ
คาดว่าโครงการจะเริ่มก่อสร้างในปี 2569 และใช้เวลาก่อสร้าง 3 ปี
นายทศพัฒน์ เลาจาง นายกเทศมนตรีตำบลปิงโค้ง ได้ให้ข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับสภาพความเป็นอยู่และอาชีพของประชาชนในพื้นที่ โดยระบุว่าเกษตรกรในหมู่บ้านต่างๆ ของตำบลปิงโค้งส่วนใหญ่ประกอบอาชีพปลูกพืชไร่ เช่น ผักกาดขาว กะหล่ำปลี กระเทียม และพืชสวน เช่น ลำไย มะม่วงน้ำดอกไม้สีทอง แต่ประสบปัญหาขาดแคลนน้ำในฤดูแล้งอย่างต่อเนื่อง ส่งผลกระทบต่อผลผลิตและรายได้
นายกเทศมนตรีย้ำว่า โครงการอ่างเก็บน้ำห้วยแม่มาศจะเป็นประโยชน์อย่างมากต่อชาวบ้าน ไม่เพียงแต่จะช่วยให้มีน้ำใช้อย่างเพียงพอตลอดทั้งปี แต่ยังจะสร้างความมั่นคงด้านน้ำเพื่อการเกษตร ซึ่งจะส่งผลให้ผลผลิตและรายได้ของเกษตรกรเพิ่มขึ้น นำไปสู่การพัฒนาคุณภาพชีวิตและเศรษฐกิจโดยรวมของตำบลปิงโค้งในที่สุด
โครงการอ่างเก็บน้ำห้วยแม่มาศนี้จึงถือเป็นความหวังสำคัญของชาวเชียงดาวในการแก้ไขปัญหาขาดแคลนน้ำที่เรื้อรังมานาน และเป็นก้าวสำคัญในการพัฒนาคุณภาพชีวิตของประชาชนในพื้นที่อย่างยั่งยืน