การแข่งขันฟุตบอล 7 คน เยาวชนอายุไม่เกิน 13 ปี รายการ GLO CUP 2024 ได้ปิดฉากลงอย่างยิ่งใหญ่เมื่อวันที่ 30 มิถุนายน 2567 ณ สนามธันเดอร์โดม สเตเดียม เมืองทองธานี กรุงเทพมหานคร โดยการแข่งขันครั้งนี้จัดขึ้นโดยสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล ชิงเงินรางวัลรวมเกือบหนึ่งล้านบาท ซึ่งได้รับความสนใจจากทีมฟุตบอลเยาวชนทั่วประเทศเป็นอย่างมาก
ในรอบชิงชนะเลิศ เป็นการพบกันระหว่างทีมโรงเรียนกันทรารมณ์ จากจังหวัดศรีสะเกษ แชมป์โซน 10 และทีมโรงเรียนพระแม่มารีสาทร จากกรุงเทพมหานคร แชมป์โซน 1 โดยทั้งสองทีมต่างผ่านเข้ารอบมาด้วยผลงานอันยอดเยี่ยม ทีมโรงเรียนกันทรารมณ์เอาชนะโรงเรียนกีฬาเทศบาลนครนครสวรรค์ด้วยสกอร์ 5-0 ในรอบรองชนะเลิศ ขณะที่ทีมโรงเรียนพระแม่มารีสาทรเอาชนะไนซ์เพลส อะคาเดมี่ 2-0
ผลการแข่งขันในรอบชิงชนะเลิศเป็นไปอย่างสูสีและน่าตื่นเต้น โดยทีมโรงเรียนพระแม่มารีสาทรสามารถเฉือนชนะทีมโรงเรียนกันทรารมณ์ด้วยสกอร์ 2-1 คว้าแชมป์ GLO CUP 2024 ไปครองได้สำเร็จ พร้อมรับเงินรางวัล 500,000 บาทและถ้วยเกียรติยศ ส่วนทีมรองแชมป์อย่างโรงเรียนกันทรารมณ์ได้รับเงินรางวัล 300,000 บาท
การแข่งขันชิงอันดับที่ 3
ในคู่ชิงอันดับที่ 3 ทีมโรงเรียนกีฬาเทศบาลนครนครสวรรค์สามารถเอาชนะทีมไนซ์เพลส อะคาเดมี่ด้วยสกอร์ 3-0 คว้าอันดับ 3 พร้อมรับเงินรางวัล 100,000 บาท ขณะที่ทีมไนซ์เพลส อะคาเดมี่ได้รับเงินรางวัลอันดับ 4 จำนวน 50,000 บาท
พิธีปิดการแข่งขันได้รับเกียรติจากบุคคลสำคัญหลายท่าน นำโดย ร้อยตำรวจโท ดร.มนัส โนนุช คณะกรรมการสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาลและประธานสมาคมสภาสังคมสงเคราะห์แห่งประเทศไทย พร้อมด้วยผู้บริหารระดับสูงของสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล ร่วมมอบรางวัลแก่ทีมชนะเลิศและรางวัลพิเศษต่างๆ
นอกจากรางวัลทีม ยังมีการมอบรางวัลเกียรติยศส่วนบุคคล ได้แก่ รางวัลผู้รักษาประตูยอดเยี่ยม ได้แก่ ณัฐนนท์ กอหรั่งกูล จากทีมโรงเรียนพระแม่มารีสาทร รางวัลผู้ทำประตูสูงสุด ได้แก่ ภัทรพงศ์ พรมรอด จากทีมโรงเรียนเทศบาลนครนครสวรรค์ และรางวัลผู้เล่นยอดเยี่ยม ได้แก่ รังสิมันตุ์ จิตรักษ์ จากทีมโรงเรียนกันทรารมณ์ โดยแต่ละรางวัลได้รับเงิน 10,000 บาท นอกจากนี้ ทีมไนซ์เพลส อะคาเดมี่ยังได้รับรางวัลทีมมารยาทยอดเยี่ยมพร้อมเงินรางวัล 10,000 บาทอีกด้วย
พันโท หนุน ศันสนาคม ผู้อำนวยการสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล กล่าวถึงวัตถุประสงค์ของการจัดการแข่งขันครั้งนี้ว่า “เรามุ่งเน้นไปที่การพัฒนาเยาวชนและคนรุ่นใหม่ โดยเฉพาะในรุ่นอายุ 13 ปี ซึ่งยังมีการจัดการแข่งขันน้อยในประเทศไทย การแข่งขันครั้งนี้มีทีมเข้าร่วมทั้งหมด 616 ทีมจากทั่วประเทศ ซึ่งถือเป็นการจุดประกายให้เด็กๆ ได้ใช้เวลาว่างให้เกิดประโยชน์และห่างไกลจากอบายมุข เราตั้งใจจะผลักดันให้รายการนี้เป็นหนึ่งในการแข่งขันหลักของประเทศ และจะจัดขึ้นเป็นประจำทุกปีต่อจากนี้”
การแข่งขัน GLO CUP 2024 ครั้งนี้ไม่เพียงแต่สร้างความตื่นเต้นและความสนุกสนานให้กับผู้ชมเท่านั้น แต่ยังเป็นเวทีสำคัญในการค้นหาและพัฒนาทักษะของนักฟุตบอลเยาวชนไทย ซึ่งจะเป็นกำลังสำคัญของวงการฟุตบอลไทยในอนาคต
