นายกรัฐมนตรีเดินทางตรวจราชการหลายจังหวัด มุ่งแก้ปัญหายาเสพติดและบริหารจัดการน้ำ

นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี มีกำหนดการเดินทางตรวจราชการในหลายจังหวัดตั้งแต่วันที่ 10-14 กรกฎาคม 2567 โดยมีจุดประสงค์หลักเพื่อแก้ไขปัญหายาเสพติด การบริหารจัดการน้ำ และพบปะประชาชนในพื้นที่

วันที่ 10 กรกฎาคม 2567 นายกรัฐมนตรีจะเริ่มภารกิจด้วยการตรวจเยี่ยมกองบัญชาการตำรวจตระเวนชายแดน (ตชด.) ในเขตพญาไท กรุงเทพมหานคร ก่อนเดินทางไปยังจังหวัดอุดรธานี เพื่อร่วมงาน “รวมพลังชุมชน อีสานเหนือสู้ภัยยาเสพติด” ที่มหาวิทยาลัยราชภัฏอุดรธานี ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงความมุ่งมั่นของรัฐบาลในการแก้ไขปัญหายาเสพติดในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ

จากนั้นในวันที่ 12-14 กรกฎาคม นายกรัฐมนตรีมีกำหนดการเดินทางไปยังจังหวัดเชียงรายและสระแก้ว โดยมีภารกิจสำคัญดังนี้

ที่จังหวัดเชียงราย:

– ตรวจเยี่ยมโครงการอนุรักษ์ฟื้นฟูแหล่งน้ำฮ่าง อำเภอพาน เพื่อหารือเกี่ยวกับการบริหารจัดการน้ำ

– เยี่ยมชมโรงเรียนเทิงวิทยาคม อำเภอเทิง เพื่อพูดคุยเรื่องการพัฒนาการศึกษา

– ตรวจเยี่ยมหน่วยเรือรักษาความสงบเรียบร้อยตามลำน้ำโขง อำเภอเชียงแสน

– ประชุมหารือแผนพัฒนาจังหวัดเชียงราย ที่หอฝิ่น อุทยานสามเหลี่ยมทองคำ

– พบปะประชาชนที่ตลาดนัดถนนคนเดิน นครเชียงราย

การแก้ไขปัญหากลุ่มชาติพันธุ์: ความท้าทายสำคัญของจังหวัดเชียงราย

ในวันที่ 14 กรกฎาคม นายกรัฐมนตรีจะเดินทางไปยังบ้านโป่งป่าแขม อำเภอแม่จัน จังหวัดเชียงราย เพื่อพบปะและหารือเกี่ยวกับการแก้ไขปัญหากลุ่มชาติพันธุ์ ซึ่งเป็นประเด็นที่มีความสำคัญและละเอียดอ่อนในพื้นที่ชายแดนภาคเหนือ การเยือนครั้งนี้แสดงให้เห็นถึงความตั้งใจของรัฐบาลในการรับฟังและแก้ไขปัญหาของกลุ่มชาติพันธุ์อย่างจริงจัง

ที่จังหวัดสระแก้ว:

– เป็นประธานในพิธีเปิดโครงการยกระดับโรงพยาบาลสมเด็จพระยุพราช

– ตรวจเยี่ยมอ่างเก็บน้ำท่ากระบาก อำเภอวัฒนานคร เพื่อติดตามสถานการณ์น้ำในจังหวัด

การเดินทางตรวจราชการครั้งนี้ของนายกรัฐมนตรีครอบคลุมประเด็นสำคัญหลายด้าน ทั้งการแก้ไขปัญหายาเสพติด การบริหารจัดการน้ำ การพัฒนาการศึกษา และการแก้ไขปัญหากลุ่มชาติพันธุ์ ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงความพยายามของรัฐบาลในการแก้ไขปัญหาและพัฒนาคุณภาพชีวิตของประชาชนในหลายมิติ นอกจากนี้ การพบปะประชาชนในหลายพื้นที่ยังเป็นโอกาสสำคัญในการรับฟังความคิดเห็นและความต้องการของประชาชนโดยตรง ซึ่งจะเป็นประโยชน์ต่อการกำหนดนโยบายและแนวทางการพัฒนาประเทศในอนาคต