อนุทิน” ยืนยันแนวทางนายกฯ: กัญชาจะไม่กลับเป็นยาเสพติด พร้อมแสดงความเชื่อมั่นในรัฐบาลชุดใหม่

นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ในฐานะหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย ได้แสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับความคืบหน้าในการผลักดันร่างพระราชบัญญัติกัญชา กัญชง หลังจากที่นายกรัฐมนตรีได้ระบุให้ออกเป็นกฎหมาย โดยนายอนุทินได้เน้นย้ำว่าการดำเนินการจะเป็นไปตามแนวทางที่นายกรัฐมนตรีกำหนด ซึ่งหมายความว่ากัญชาจะไม่ถูกนำกลับไปจัดเป็นยาเสพติดอีกต่อไป

ในการให้สัมภาษณ์ที่ทำเนียบรัฐบาลเมื่อวันที่ 25 กรกฎาคม 2567 นายอนุทินได้อธิบายถึงกระบวนการในการพิจารณาร่างกฎหมายดังกล่าว โดยระบุว่าจะมีการพิจารณาร่างกฎหมายจากหลายฝ่าย ทั้งจากกระทรวงสาธารณสุข สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร และคณะรัฐมนตรี โดยจะนำมาประกอบรวมกันเพื่อให้ได้ร่างกฎหมายที่สมบูรณ์ที่สุด

นายอนุทินยังได้เน้นย้ำว่าการออกพระราชบัญญัตินี้จะเป็นการยืนยันว่ากัญชาและกัญชงจะไม่ถูกนำกลับไปเป็นยาเสพติดอีก โดยจะไม่ใช้ช่องทางของคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด (บอร์ด ป.ป.ส.) ในการพิจารณาเรื่องนี้ ซึ่งสอดคล้องกับแนวทางที่นายกรัฐมนตรีได้กำหนดไว้

ความเชื่อมั่นในรัฐบาลชุดใหม่

นายอนุทินได้แสดงความมั่นใจอย่างเต็มเปี่ยมในการทำงานของรัฐบาลชุดใหม่ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในตัวนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีคนปัจจุบัน เขากล่าวว่า “ผมมั่นใจในนายกรัฐมนตรีของผม นายกฯ ลงมาสั่งการขนาดนี้แล้ว และเป็นพรรคร่วมรัฐบาลที่มีเสียงสนับสนุนกว่า 314 เสียง ซึ่งไม่เหมือนรัฐบาลที่แล้ว ที่มีเสียงสนับสนุน 253 เสียง”

นอกจากนี้ นายอนุทินยังได้ปฏิเสธข้อสงสัยที่ว่าการผลักดันกฎหมายนี้เป็นชัยชนะของพรรคภูมิใจไทย โดยเน้นย้ำว่านี่คือชัยชนะของประชาชนทั้งประเทศ เขากล่าวว่า “เรายึดถือประโยชน์ส่วนรวม ขอให้เลิกคิดเสียทีเพราะทำงานด้วยกันจะไปแข่งกันทำไม”

เมื่อถูกถามถึงความเป็นไปได้ที่กฎหมายจะผ่านการพิจารณาของทั้งสภาผู้แทนราษฎรและวุฒิสภา นายอนุทินแสดงความเชื่อมั่นว่าหากเป็นกฎหมายที่ดีก็ไม่น่าจะมีปัญหาอะไร พร้อมทั้งกล่าวว่าได้ส่งความยินดีไปยังสมาชิกวุฒิสภาทั้งหมดผ่านสื่อแล้ว

ด้วยท่าทีที่มั่นใจและการสนับสนุนอย่างเต็มที่จากรัฐบาล การผลักดันร่างพระราชบัญญัติกัญชา กัญชงนี้ ดูเหมือนจะมีโอกาสสูงที่จะประสบความสำเร็จ อย่างไรก็ตาม ยังคงต้องติดตามความคืบหน้าและการพิจารณาในรายละเอียดของกฎหมายต่อไป เพื่อให้มั่นใจว่าจะเกิดประโยชน์สูงสุดแก่ประชาชนและประเทศชาติอย่างแท้จริง