เมื่อวันที่ 7 สิงหาคม พ.ศ. 2567 ตำรวจกองกำกับการสืบสวนสอบสวน 3 กองบังคับการสืบสวนสอบสวน กองบัญชาการตำรวจนครบาล (กก.สส.3 บก.สส.บช.น.) ได้ทำการจับกุมผู้ต้องหาหญิงรายหนึ่ง ซึ่งใช้แพลตฟอร์มโซเชียลมีเดีย X (อดีต Twitter) ในการเผยแพร่และชักชวนให้ผู้ใช้งานเข้าร่วมกลุ่มที่มีการแชร์คลิปวิดีโอลามกอนาจาร โดยมีการเรียกเก็บค่าสมาชิกจากผู้ที่สนใจเข้าร่วมกลุ่ม
ผู้ต้องหาคือ น.ส.ภัณฑิรา (สงวนนามสกุล) อายุ 23 ปี ถูกจับกุมในข้อหากระทำความผิดตามพระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ. 2550 มาตรา 14 (4) และ (5) รวมถึงประมวลกฎหมายอาญามาตรา 83, 287 (1) และ (2) โดยมีรายละเอียดข้อกล่าวหาว่า นำเข้าและเผยแพร่ข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่มีลักษณะลามกอนาจารซึ่งประชาชนทั่วไปสามารถเข้าถึงได้ ตลอดจนผลิตและจำหน่ายสื่อลามกเพื่อการค้า
จากการสอบสวนเบื้องต้น ผู้ต้องหาให้การว่าได้กระทำการดังกล่าวมาเป็นระยะเวลาประมาณ 1 ปี โดยถ่ายคลิปวิดีโอของตนเองและคู่รักในลักษณะลามกอนาจาร แล้วนำไปเผยแพร่บนแพลตฟอร์ม X ซึ่งมีผู้ติดตามมากถึง 170,000 คน และมีสมาชิกที่จ่ายเงินเข้าร่วมกลุ่มกว่า 200 คน โดยเสียค่าสมาชิกคนละ 100 บาท ทำให้ผู้ต้องหามีรายได้จากการกระทำผิดนี้ประมาณ 3-4 หมื่นบาทต่อเดือน
ผลกระทบและความเสี่ยงของการเผยแพร่สื่อลามกออนไลน์
การเผยแพร่สื่อลามกอนาจารทางอินเทอร์เน็ตนั้นไม่เพียงแต่เป็นการกระทำที่ผิดกฎหมายเท่านั้น แต่ยังส่งผลกระทบร้ายแรงต่อผู้กระทำความผิดและสังคมในวงกว้าง ดังนี้:
1. ผลกระทบต่อชื่อเสียงและอนาคต: การเผยแพร่สื่อลามกของตนเองอาจส่งผลเสียต่อชื่อเสียงและโอกาสในการทำงานในอนาคต เนื่องจากข้อมูลบนอินเทอร์เน็ตสามารถแพร่กระจายได้อย่างรวดเร็วและยากต่อการลบออกอย่างสมบูรณ์
2. ความเสี่ยงต่อการตกเป็นเหยื่อ: ผู้ที่เผยแพร่สื่อลามกของตนเองอาจตกเป็นเป้าหมายของการแบล็คเมล์หรือการล่วงละเมิดทางออนไลน์
3. ผลกระทบทางกฎหมาย: นอกจากโทษทางอาญาแล้ว ผู้กระทำผิดอาจต้องเผชิญกับการฟ้องร้องทางแพ่งและค่าเสียหายที่สูง
4. ผลกระทบทางสังคม: การแพร่หลายของสื่อลามกอนาจารส่งผลเสียต่อค่านิยมและศีลธรรมของสังคม โดยเฉพาะอย่างยิ่งต่อเยาวชน
พล.ต.ต.ธีรเดช ผู้บังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (บก.ปอท.) ได้กล่าวเตือนว่า ทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องกับการผลิต เผยแพร่ หรือได้รับผลประโยชน์จากสื่อลามกอนาจารล้วนมีความผิดตามกฎหมาย และขอให้ประชาชนเข้าใจถึงการปฏิบัติหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ตำรวจในการบังคับใช้กฎหมาย พร้อมทั้งเน้นย้ำว่าผลตอบแทนทางการเงินที่ได้รับในระยะสั้นนั้นไม่คุ้มค่ากับผลกระทบระยะยาวที่จะตามมาในอนาคต
ทั้งนี้ ตำรวจได้ยึดของกลางจำนวน 3 รายการ ประกอบด้วย โทรศัพท์มือถือยี่ห้อ iPhone XR สีแดง กางเกงที่ใช้ในการถ่ายภาพ 1 ตัว และขาตั้งกล้อง 1 อัน จากที่พักของผู้ต้องหาในเขตรังสิต-คลอง 1 ตำบลประชาธิปัตย์ อำเภอธัญบุรี จังหวัดปทุมธานี เพื่อใช้เป็นหลักฐานในการดำเนินคดีต่อไป