เรื่องราวสะเทือนใจของหญิงสาวชาวเวียดนามวัย 26 ปี ได้สร้างความตื่นตระหนกและความเศร้าสลดให้กับผู้คนบนโลกออนไลน์ จากอดีตสาวสวยผู้เคยเป็นที่ชื่นชมของหมู่บ้าน กลับต้องเผชิญกับภาวะทุพโภชนาการอย่างรุนแรง จนน้ำหนักเหลือเพียง 19 กิโลกรัม เหตุการณ์นี้เป็นบทเรียนอันแสนเจ็บปวดที่แสดงให้เห็นถึงอันตรายของการลดน้ำหนักอย่างไม่ถูกวิธี
จากดาวเด่นสู่เงาจาง: ชีวิตในวัยเยาว์
ในวัยเด็ก เธอเติบโตมาในครอบครัวที่มีพี่น้อง 3 คน โดยเธอเป็นพี่คนโต เธอมีสุขภาพแข็งแรงและแทบไม่เคยเจ็บป่วย เมื่อเข้าสู่วัยรุ่น เธอมีส่วนสูง 155 เซนติเมตร และน้ำหนักประมาณ 53-54 กิโลกรัม ซึ่งถือว่าอยู่ในเกณฑ์ปกติสำหรับวัยของเธอ อย่างไรก็ตาม ด้วยค่านิยมทางสังคมและความกดดันจากภาพลักษณ์ในอุดมคติ ทำให้เธอรู้สึกว่าตัวเองยัง “อ้วน” เกินไป จุดนี้เองที่กลายเป็นจุดเริ่มต้นของโศกนาฏกรรมที่กำลังจะเกิดขึ้น
วิธีลดน้ำหนักสุดโต่ง: จุดเริ่มต้นของหายนะ
ด้วยความต้องการที่จะมีรูปร่างผอมบาง เธอตัดสินใจเลือกวิธีลดน้ำหนักที่สุดโต่งและอันตราย นั่นคือการตัดอาหารจำพวกแป้งออกไปจากชีวิตโดยสิ้นเชิง ไม่ว่าจะเป็นข้าว วุ้นเส้น หรือแม้แต่เฝอ ซึ่งเป็นอาหารประจำชาติของเวียดนาม อาหารแต่ละมื้อของเธอมีเพียงถั่วและผักเท่านั้น เธอแทบไม่บริโภคเนื้อสัตว์เลย ยกเว้นในบางครั้งที่รู้สึกอยากกินจริงๆ เท่านั้น
การเปลี่ยนแปลงที่น่าตกใจ: ผลลัพธ์ของการอดอาหาร
หลังจากปฏิบัติตามวิธีการลดน้ำหนักแบบสุดโต่งนี้เป็นเวลาประมาณหนึ่งปี ร่างกายของเธอก็เริ่มแสดงผลลัพธ์ที่น่าตกใจ น้ำหนักลดลงอย่างรวดเร็วและเห็นได้ชัด แม้ว่าครอบครัวจะพยายามเตือนและแนะนำให้เธอรับประทานอาหารให้ครบถ้วนเพื่อสุขภาพ แต่เธอกลับไม่ใส่ใจและยืนกรานว่าเธอรู้ดีที่สุดว่าอะไรเหมาะสมกับตัวเอง
ชีวิตหลังวัยเรียน: การทำงานและสุขภาพที่เสื่อมถอย
หลังจบการศึกษาระดับมัธยมปลาย เธอเริ่มทำงานเป็นพนักงานตัดเย็บเสื้อผ้า แม้ว่าในช่วงนี้เธอจะไม่ได้ควบคุมอาหารอย่างเข้มงวดเหมือนก่อน แต่ก็ยังคงหลีกเลี่ยงการรับประทานอาหารจำพวกแป้ง ความกังวลของครอบครัว ญาติ และเพื่อนบ้านเพิ่มมากขึ้น เมื่อเห็นว่าเธอผอมลงจนน่าเป็นห่วง แต่เธอก็ยังคงไม่ยอมรับฟังคำแนะนำใดๆ
จุดเปลี่ยนครั้งสำคัญ: อุบัติเหตุและผลกระทบต่อสุขภาพ
ในปี 2022 เหตุการณ์ที่เปลี่ยนชีวิตของเธอได้เกิดขึ้น ขณะพาน้องชายไปโรงเรียน เธอประสบอุบัติเหตุทางจราจรและต้องเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาล อาการบาดเจ็บที่ขาของเธอฟื้นตัวได้ช้ากว่าคนปกติอย่างเห็นได้ชัด แพทย์วินิจฉัยว่าสาเหตุมาจากภาวะขาดสารอาหารอย่างรุนแรง ขาที่อ่อนแอทำให้เธอล้มบ่อยครั้ง จนต้องกลับเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาลอีกประมาณ 20 วัน
สภาพปัจจุบัน: ความพยายามในการฟื้นฟูสุขภาพ
ปัจจุบัน น้ำหนักของเธอลดลงเหลือเพียง 19 กิโลกรัม ร่างกายเหลือเพียงผิวหนังหุ้มกระดูก มองเห็นเส้นเลือดสีน้ำเงินชัดเจน แพทย์วินิจฉัยว่าเธอมีภาวะทุพโภชนาการอย่างรุนแรง เธอตระหนักถึงความผิดพลาดของตนเองและรู้สึกเสียใจอย่างยิ่งที่ไม่ได้ใส่ใจสุขภาพของตนเองตั้งแต่แรก
การต่อสู้เพื่อชีวิตใหม่: ความหวังและกำลังใจ
แม้จะต้องเผชิญกับความยากลำบาก แต่เธอยังคงเป็นหญิงสาวที่มองโลกในแง่ดีและมีความเข้มแข็ง ล่าสุด หลังจากออกจากโรงพยาบาล สุขภาพของเธอเริ่มดีขึ้นเล็กน้อย สามารถเดินบนพื้นราบและดูแลสุขอนามัยส่วนตัวได้ด้วยตนเอง แต่ยังคงเหนื่อยง่ายเมื่อต้องใช้แรงเป็นเวลานาน เธอปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์อย่างเคร่งครัด ทั้งการรับประทานอาหาร การทานวิตามินและอาหารเสริม รวมถึงการออกกำลังกายเบาๆ และการทำกายภาพบำบัด
บทเรียนและคำเตือนใจ: เสียงจากผู้ผ่านประสบการณ์
เธอหวังว่าเรื่องราวของเธอจะเป็นบทเรียนสำหรับผู้อื่น และไม่อยากให้ใครต้องประสบชะตากรรมเช่นเดียวกับเธอ เธอเน้นย้ำถึงความสำคัญของการดูแลสุขภาพและการรักตัวเอง โดยกล่าวว่า “อย่าปล่อยให้สุขภาพของคุณได้รับผลกระทบ เพียงเพราะความคิดที่ไม่รอบคอบหรือการยึดติดกับรูปร่างหน้าตา สุขภาพเป็นสิ่งที่มีค่าที่สุด หากไม่มีสุขภาพที่ดี คุณจะทำอะไรไม่ได้เลย”
เรื่องราวของเธอเป็นเครื่องเตือนใจอันทรงพลังถึงความสำคัญของการรักษาสมดุลในการดูแลสุขภาพ และอันตรายของการลดน้ำหนักอย่างไม่ถูกวิธี หวังว่าประสบการณ์อันเจ็บปวดของเธอจะเป็นบทเรียนสำหรับผู้อื่น และกระตุ้นให้ทุกคนตระหนักถึงคุณค่าของสุขภาพที่แข็งแรงมากกว่าการไล่ตามมาตรฐานความงามที่ไม่เป็นธรรมชาติ