ในวันที่ 16 สิงหาคม 2567 ณ ตึกสันติไมตรี ทำเนียบรัฐบาล ได้มีการจัดงานเลี้ยงฉลองชัยและแสดงความยินดีแก่นักกีฬาไทยที่เข้าร่วมการแข่งขันกีฬาโอลิมปิกเกมส์ ครั้งที่ 33 “ปารีส 2024” ซึ่งจัดขึ้น ณ กรุงปารีส สาธารณรัฐฝรั่งเศส ระหว่างวันที่ 26 กรกฎาคม ถึง 11 สิงหาคม 2567 ที่ผ่านมา โดยมีการมอบเงินรางวัลให้แก่นักกีฬา ผู้ฝึกสอน สมาคมกีฬา และคณะเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง
งานนี้ได้รับเกียรติจากนายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รักษาการรองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคมนาคม เป็นประธานในพิธี พร้อมด้วยผู้บริหารระดับสูงจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง อาทิ นายเสริมศักดิ์ พงษ์พานิช รักษาการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา, นายอารัญ บุญชัย ปลัดกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา, ดร.ก้องศักด ยอดมณี ผู้ว่าการการกีฬาแห่งประเทศไทย และนายธนา ไชยประสิทธิ์ หัวหน้าคณะนักกีฬาทีมชาติไทย
กองทุนพัฒนาการกีฬาแห่งชาติ (NSDF) ภายใต้การกีฬาแห่งประเทศไทย ได้จัดสรรเงินรางวัลรวมทั้งสิ้น 65.9 ล้านบาท เพื่อเป็นการตอบแทนความมุ่งมั่นและความสำเร็จของนักกีฬาไทย โดยแบ่งเป็นเงินรางวัลสำหรับนักกีฬาที่ได้รับเหรียญรางวัล ผู้ฝึกสอน และสมาคมกีฬาที่เกี่ยวข้อง ตามหลักเกณฑ์ที่กำหนดไว้
รายละเอียดเงินรางวัลสำหรับนักกีฬา:
– เหรียญทอง: 12 ล้านบาท
– เหรียญเงิน: 7.2 ล้านบาท
– เหรียญทองแดง: 4.8 ล้านบาท
นักกีฬาที่ได้รับเงินรางวัล ได้แก่:
1. เรืออากาศโทหญิง พาณิภัค วงศ์พัฒนกิจ (เทควันโด) – เหรียญทอง
2. นายกุลวุฒิ วิทิตศานต์ (แบดมินตัน) – เหรียญเงิน
3. นายธีรพงศ์ ศิลาชัย (ยกน้ำหนัก) – เหรียญเงิน
4. นายวีรพล วิชุมา (ยกน้ำหนัก) – เหรียญเงิน
5. นางสาวจันทร์แจ่ม สุวรรณเพ็ง (มวยสากล) – เหรียญทองแดง
6. นางสาวสุรจนา คำเบ้า (ยกน้ำหนัก) – เหรียญทองแดง
นอกจากนี้ ยังมีการมอบเงินรางวัลให้แก่สมาคมกีฬาที่มีนักกีฬาได้รับเหรียญรางวัล และสมาคมกีฬาอื่นๆ ที่ส่งนักกีฬาเข้าร่วมการแข่งขัน รวมทั้งสิ้น 16 สมาคม
ไฮไลท์ของพิธีมอบรางวัล: การโอนเงินแบบเรียลไทม์
จุดเด่นของพิธีมอบรางวัลในครั้งนี้คือ การโอนเงินรางวัลแบบทันทีให้กับนักกีฬาและสมาคมกีฬาต่างๆ ภายในงาน โดยผู้รับรางวัลสามารถเห็นการแจ้งเตือนยอดเงินเข้าบัญชีผ่านโทรศัพท์มือถือของตนเองในทันที สะท้อนให้เห็นถึงความโปร่งใสและประสิทธิภาพในการบริหารจัดการเงินรางวัลของกองทุนพัฒนาการกีฬาแห่งชาติ
การมอบเงินรางวัลในครั้งนี้ไม่เพียงแต่เป็นการตอบแทนความสำเร็จของนักกีฬาเท่านั้น แต่ยังเป็นการสร้างแรงบันดาลใจและกำลังใจให้แก่นักกีฬารุ่นต่อไป รวมถึงเป็นการส่งเสริมการพัฒนาวงการกีฬาไทยให้ก้าวหน้ายิ่งขึ้นในอนาคต ทั้งนี้ ความสำเร็จของนักกีฬาไทยในมหกรรมกีฬาโอลิมปิกเกมส์ 2024 ถือเป็นความภาคภูมิใจของคนไทยทั้งประเทศ และเป็นการสร้างชื่อเสียงให้กับประเทศไทยบนเวทีกีฬาระดับโลก