สภายุโรปได้ลงมติเห็นชอบตามข้อเสนอของคณะกรรมาธิการยุโรปในการปรับขึ้นค่าธรรมเนียมวีซ่าสำหรับการเข้าประเทศในกลุ่มเชงเก้นสำหรับการพำนักระยะสั้น โดยจะเพิ่มขึ้นจาก 60 ยูโรเป็น 80 ยูโร หรือประมาณ 2,859 บาท (อัตราแลกเปลี่ยน 1 ยูโร = 35.74 บาท ณ วันที่ 19 เมษายน 2562) การตัดสินใจครั้งนี้เกิดขึ้นเมื่อวันพุธที่ 17 เมษายน 2562 ตามเวลาท้องถิ่น
คณะกรรมาธิการยุโรปชี้แจงว่า การปรับขึ้นค่าธรรมเนียมวีซ่าครั้งนี้ถือเป็นส่วนหนึ่งของมาตรการที่จะช่วยให้ประเทศสมาชิกสามารถรักษาจำนวนเจ้าหน้าที่กงสุลให้เพียงพอทั่วโลก อีกทั้งยังช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการควบคุมความปลอดภัย และปรับปรุงอุปกรณ์คอมพิวเตอร์และซอฟต์แวร์ที่เกี่ยวข้อง โดยทางคณะกรรมาธิการยืนยันว่าการเพิ่มค่าธรรมเนียมเพียงเล็กน้อยนี้จะไม่ส่งผลกระทบหรือเป็นอุปสรรคสำหรับผู้ที่ต้องการยื่นขอวีซ่า
นอกจากการปรับขึ้นค่าธรรมเนียมแล้ว กฎเกณฑ์ใหม่ยังได้มีการปรับปรุงขั้นตอนการขอวีซ่าให้มีความยืดหยุ่นมากขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับผู้ยื่นขอที่มีประวัติการขอวีซ่าที่ดี โดยผู้ยื่นขอกลุ่มนี้อาจได้รับสิทธิพิเศษในการได้รับวีซ่าแบบเข้า-ออกหลายครั้ง (Multiple Entry) ซึ่งมีระยะเวลาการใช้งานที่ยาวนานขึ้น โดยอาจเพิ่มจาก 1 ปีเป็น 5 ปี
วีซ่าเชงเก้น: เครื่องมือทางการทูตของสหภาพยุโรป
สหภาพยุโรปมองว่ากระบวนการขอวีซ่าไม่เพียงแต่เป็นขั้นตอนทางการปกครองเท่านั้น แต่ยังเป็นเครื่องมือสำคัญในการเจรจาต่อรองทางการทูตอีกด้วย โดยเฉพาะอย่างยิ่งในประเด็นเกี่ยวกับการส่งผู้อพยพกลับประเทศต้นทาง และการควบคุมการเข้าเมืองอย่างผิดกฎหมาย ทั้งนี้ สหภาพยุโรปสามารถปรับเปลี่ยนเงื่อนไขการดำเนินการยื่นขอวีซ่าได้ตามระดับความร่วมมือของประเทศที่สาม
คณะกรรมาธิการยุโรปและประเทศสมาชิกมีอำนาจในการตัดสินใจที่จะบังคับใช้กฎระเบียบบางประการของรหัสวีซ่าอย่างเข้มงวดหรือผ่อนปรนตามสถานการณ์ ซึ่งรวมถึงการกำหนดระยะเวลาในการดำเนินการขอวีซ่า ระยะเวลาที่วีซ่ามีผลบังคับใช้ อัตราค่าธรรมเนียม และการยกเว้นค่าธรรมเนียมสำหรับผู้ยื่นขอบางกลุ่ม
อย่างไรก็ตาม กฎใหม่นี้ยังไม่มีผลบังคับใช้ในทันที แม้จะได้รับการอนุมัติจากสภายุโรปแล้วก็ตาม โดยจะต้องรอการรับรองจากคณะมนตรียุโรปก่อน หลังจากนั้นจึงจะมีผลบังคับใช้ภายในระยะเวลา 6 เดือน ซึ่งผู้ที่วางแผนจะเดินทางไปยังประเทศในกลุ่มเชงเก้นควรติดตามข่าวสารอย่างใกล้ชิดเพื่อเตรียมตัวสำหรับการเปลี่ยนแปลงที่จะเกิดขึ้นในอนาคตอันใกล้นี้