ในความพยายามที่จะกระตุ้นอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวและฟื้นฟูเศรษฐกิจที่ได้รับผลกระทบอย่างหนักจากการระบาดของโรคโควิด-19 และวิกฤตการเงิน รัฐบาลศรีลังกาได้ประกาศนโยบายใหม่ที่จะยกเว้นค่าธรรมเนียมวีซ่าสำหรับนักท่องเที่ยวจาก 35 ประเทศ โดยมติดังกล่าวได้รับการอนุมัติจากคณะรัฐมนตรีของประเทศเมื่อเร็วๆ นี้
นายบันดูลา กุนาวาร์ดานา ซึ่งดำรงตำแหน่งโฆษกคณะรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ได้แถลงต่อสื่อมวลชนเมื่อวันที่ 22 สิงหาคม ว่าโครงการนำร่องนี้จะเริ่มมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม 2566 เป็นต้นไป โดยจะมีระยะเวลาทดลองใช้ 6 เดือน ภายใต้โครงการนี้ นักท่องเที่ยวจากประเทศที่ได้รับการคัดเลือกจะสามารถเข้าประเทศศรีลังกาได้โดยไม่ต้องเสียค่าธรรมเนียมวีซ่า และสามารถพำนักอยู่ในประเทศได้นานถึง 30 วัน
**ประเทศที่ได้รับสิทธิพิเศษ**
รายชื่อประเทศที่ได้รับสิทธิประโยชน์จากนโยบายฟรีวีซ่านี้ครอบคลุมทั้งประเทศมหาอำนาจทางเศรษฐกิจและประเทศที่มีศักยภาพด้านการท่องเที่ยวสูง ได้แก่ สหราชอาณาจักร เยอรมนี เนเธอร์แลนด์ เบลเยียม สเปน ออสเตรเลีย เดนมาร์ก โปแลนด์ คาซัคสถาน ซาอุดีอาระเบีย สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ เนปาล จีน อินเดีย อินโดนีเซีย รัสเซีย ไทย มาเลเซีย ญี่ปุ่น ฝรั่งเศส สหรัฐอเมริกา แคนาดา สาธารณรัฐเช็ก อิตาลี สวิตเซอร์แลนด์ ออสเตรีย อิสราเอล เบลารุส อิหร่าน สวีเดน เกาหลีใต้ กาตาร์ โอมาน บาห์เรน และนิวซีแลนด์
**ความหวังในการฟื้นฟูเศรษฐกิจ**
ศรีลังกา ซึ่งมีชื่อเสียงในด้านชายหาดที่สวยงาม วัดโบราณอันทรงคุณค่า และชาหอมชั้นเลิศ ได้รับผลกระทบอย่างหนักจากการระบาดของโรคโควิด-19 ซึ่งตามมาด้วยวิกฤตการเงินที่รุนแรงในปี 2565 เหตุการณ์ดังกล่าวนำไปสู่การประท้วงของประชาชนและภาวะขาดแคลนสินค้าอุปโภคบริโภคที่จำเป็นในชีวิตประจำวัน รวมถึงน้ำมันเชื้อเพลิง ซึ่งส่งผลกระทบอย่างรุนแรงต่ออุตสาหกรรมการท่องเที่ยวของประเทศ
อย่างไรก็ตาม มีสัญญาณที่ดีเกิดขึ้นเมื่อปีที่ผ่านมา โดยภาคการท่องเที่ยวของศรีลังกาเริ่มแสดงให้เห็นถึงการฟื้นตัว ล่าสุด ณ กลางเดือนสิงหาคม 2566 ประเทศได้ต้อนรับนักท่องเที่ยวเกือบ 2 ล้านคน ซึ่งนับเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่ปี 2562 ที่จำนวนนักท่องเที่ยวกลับมาสู่ระดับนี้ ทั้งนี้ รัฐบาลศรีลังกาคาดการณ์ว่าจำนวนนักท่องเที่ยวจะเพิ่มขึ้นถึง 2.3 ล้านคนภายในสิ้นปีนี้
**มาตรการเสริมเพื่อดึงดูดนักท่องเที่ยว**
นอกเหนือจากนโยบายฟรีวีซ่าแล้ว รัฐบาลศรีลังกายังได้วางแผนที่จะดำเนินมาตรการเสริมอื่นๆ เพื่อเพิ่มความน่าสนใจของประเทศในฐานะจุดหมายปลายทางการท่องเที่ยว เช่น การปรับปรุงโครงสร้างพื้นฐานด้านการท่องเที่ยว การส่งเสริมการท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรมและธรรมชาติ และการพัฒนาบุคลากรในอุตสาหกรรมบริการ ทั้งหมดนี้มีเป้าหมายเพื่อสร้างประสบการณ์ที่น่าประทับใจให้แก่นักท่องเที่ยวและกระตุ้นให้เกิดการบอกต่อในวงกว้าง
ด้วยมาตรการเหล่านี้ รัฐบาลศรีลังกาหวังว่าจะสามารถฟื้นฟูภาคการท่องเที่ยวให้กลับมาเป็นแรงขับเคลื่อนสำคัญของเศรษฐกิจประเทศอีกครั้ง พร้อมทั้งสร้างงานและรายได้ให้แก่ประชาชน ซึ่งจะนำไปสู่การพัฒนาที่ยั่งยืนในระยะยาว