ความกังวลเพิ่มขึ้นในอุตสาหกรรมท่องเที่ยวไทย หลังญี่ปุ่นส่งสัญญาณอาจยกเลิกมาตรการฟรีวีซ่า

ความตึงเครียดเพิ่มขึ้นในวงการธุรกิจท่องเที่ยวไทย หลังจากมีรายงานว่าประเทศญี่ปุ่นกำลังพิจารณายกเลิกมาตรการฟรีวีซ่า 15 วันสำหรับนักท่องเที่ยวชาวไทย เนื่องจากปัญหานักท่องเที่ยวบางส่วนลักลอบอยู่เกินกำหนดและทำงานผิดกฎหมาย ส่งผลให้ผู้ประกอบการธุรกิจท่องเที่ยวไทยต่างแสดงความกังวลถึงผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นต่ออุตสาหกรรมการท่องเที่ยว

ผลกระทบต่อธุรกิจทัวร์และการตัดสินใจของนักท่องเที่ยว

นางสาวลลิตา ขันแข็ง ผู้ประกอบการบริษัททัวร์รายหนึ่ง เปิดเผยถึงความกังวลว่า หากญี่ปุ่นตัดสินใจยกเลิกมาตรการฟรีวีซ่า จะส่งผลกระทบอย่างมีนัยสำคัญต่อยอดขายโปรแกรมทัวร์ญี่ปุ่น เธออธิบายว่า การที่นักท่องเที่ยวไทยต้องกลับไปขอวีซ่าเหมือนในอดีตจะทำให้กระบวนการเดินทางยุ่งยากขึ้น ซึ่งอาจส่งผลให้นักท่องเที่ยวบางส่วนเลือกที่จะเดินทางไปยังประเทศอื่นที่ไม่ต้องขอวีซ่าแทน เช่น จอร์เจีย หรือตุรกี

นอกจากนี้ นางสาวลลิตายังชี้ให้เห็นถึงความเสี่ยงที่บริษัททัวร์อาจสูญเสียลูกค้าในกรณีที่วีซ่าไม่ผ่าน โดยยกตัวอย่างว่า หากมีครอบครัวหนึ่งวางแผนเดินทาง 5 คน แต่มีสมาชิก 1 คนไม่ได้รับอนุมัติวีซ่า อาจทำให้ทั้งครอบครัวยกเลิกการเดินทาง ส่งผลให้บริษัททัวร์สูญเสียลูกค้าทั้งหมด

ผลดีของนโยบายฟรีวีซ่าระหว่างไทยและจีน

ในทางกลับกัน มาตรการฟรีวีซ่าระหว่างไทยและจีนที่เริ่มมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 1 มีนาคม 2567 ได้ส่งผลดีต่อการท่องเที่ยวระหว่างสองประเทศอย่างชัดเจน นายรพีพงศ์ อุ่นอบธีรศรี ผู้ประกอบการบริษัททัวร์อีกราย เปิดเผยว่า จำนวนนักท่องเที่ยวไทยที่เดินทางไปจีนได้เพิ่มขึ้นเป็นเท่าตัวเมื่อเทียบกับปีก่อน โดยเฉพาะในช่วงปิดภาคเรียนและสภาพอากาศที่เย็นสบาย ทำให้เมืองท่องเที่ยวยอดนิยมในจีนมีนักท่องเที่ยวไทยหลั่งไหลเข้าไปเป็นจำนวนมาก

การเตรียมการของรัฐบาลไทย

ในขณะเดียวกัน รัฐบาลไทยก็ไม่ได้นิ่งนอนใจต่อสถานการณ์ที่อาจเกิดขึ้น นายปานปรีย์ พหิทธานุกร รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ มีกำหนดการเดินทางไปประเทศญี่ปุ่นเพื่อเจรจาเกี่ยวกับประเด็นนี้ โดยมีเป้าหมายเพื่อรักษาผลประโยชน์ของนักท่องเที่ยวไทยและป้องกันผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นต่ออุตสาหกรรมการท่องเที่ยวของประเทศ

ข้อควรระวังสำหรับนักท่องเที่ยวไทย

ท้ายที่สุด ไม่ว่าผลการเจรจาจะออกมาอย่างไร สิ่งสำคัญที่สุดคือนักท่องเที่ยวไทยควรตระหนักถึงความสำคัญของการปฏิบัติตามกฎหมายและระเบียบของประเทศที่ตนเดินทางไปเยือน การกระทำผิดกฎหมายของคนส่วนน้อยอาจส่งผลกระทบต่อนักท่องเที่ยวส่วนใหญ่และภาพลักษณ์ของประเทศไทยในสายตาชาวโลก ดังนั้น การเคารพกฎหมายและวัฒนธรรมของประเทศเจ้าบ้านจึงเป็นสิ่งที่ทุกคนควรให้ความสำคัญเป็นอันดับแรก